การเลือกประธานและรองประธานสภาผู้แทนฯ จบลงอย่างราบรื่น นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภา โดยไม่มีคู่แข่ง
ขณะที่ ‘หมออ๋อง’ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก แคนดิเดตจากพรรคก้าวไกล ชิงรองประธานสภาคนที่หนึ่ง โดยมีพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอชื่อ นายวิทยา แก้วภราดัย ขึ้นแข่ง แต่เสียงโหวตของ 8 พรรคร่วมตั้งรัฐบาลก็ไม่มีแตกแถว แถมได้เสียงเพิ่มจากอีกฝั่ง
สำหรับรองประธานสภาคนที่สอง นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ก็ไร้คู่แข่ง
ทั้งนี้ ก่อนการลงมติของสมาชิกสภาทั้ง 3 คนได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมไว้ ดังนี้
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวยืนยันว่า 1.จะทำหน้าที่ด้วยความเป็นกลางทางการเมือง น้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เมื่อ 3 ก.ค.มาเป็นแนวทางปฏิบัติ 2.จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความโปร่งใส สุจริต ตามกฎหมาย ข้อบังคับทุกประการ
3.จะกำหนดแนวทางร่วมกันกับรองประธาน 2 คน ในการพิจารณาร่างกฎหมาย ญัตติ กระทู้ถามอย่างเป็นระบบ ให้ส.ส.ได้ปฏิบัติหน้าที่เต็มความสามารถ 4.ให้ความสำคัญกับการปฏิบัติของ กมธ.ทุกคณะเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนประชาชนทุกกรณี
5.ร่วมกับส.ส.ดำเนินการนโยบายต่างประเทศกับฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อประโยชน์แลกเปลี่ยนข้อมูล เพิ่มประสิทธิภาพฝ่ายนิติบัญญัติ 6.จะทำหน้าที่กำกับดูแลงานสถาบันพระปกเกล้าให้มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมงานฝ่ายนิติบัญญัติ 7.ส่งเสริมสถานีวิทยุ-โทรทัศน์ของรัฐสภาให้เป็นสถานีของประชาชน
ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ อายุ 79 ปี เป็นอดีตรองนายกฯ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง เป็น ผอ.โรงเรียนสอนศาสนา ที่ จ.นราธิวาส และอาจารย์มหาวิทยาลัย ก่อนหันมาเล่นการเมือง เป็นที่รู้จักในฐานะแกนนำกลุ่มวาดะห์ ก่อนมาร่วมงานกับพรรคประชาชาติ อยู่กับพรรคไทยรักไทยและเพื่อไทยมาก่อน
นายปดิพัทธ์ สันติภาดา กล่าวว่า ตนอยากเห็นประชาชนกลับมามั่นใจในสภา กระบวนการนิติบัญญัติ ที่กฎหมายทุกฉบับจะได้รับการพิจารณาอย่างมีประสิทธิภาพ สภากลับมามีตัวตนและศักดิ์ศรี โดยไม่อยู่ใต้อาณัติของฝ่ายบริหาร
ภารกิจของสำนักงานเลขาธิการสภาสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของตนอย่างมาก คือจะเป็น Smart Parliament การเสริมสร้างกระบวนการนิติบัญญัติให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ต้องมีความมุ่งมั่นยกระดับกระบวนการนิติบัญญัติให้ได้
ประชาชน สื่อมวลชน เพื่อนสมาชิกสามารถติดตามกระบวนการผ่านร่างกฎหมายได้อย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ จะแปลกฎหมายที่ผ่านวาระสามและบังคับใช้แล้วเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ร่วมกับอาเซียนและประชาคมโลก
รวมถึงความร่วมมือในเวทีรัฐสภาอีกหลายด้าน โดยเฉพาะการเสริมสร้างบทบาทความเท่าเทียมทางเพศของสมาชิก
อยากเห็นประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองโดยไม่ใช่แค่การเลือกตัวแทนของเขาเข้าสภา แต่กระบวนการรับฟังความเห็นต้องทำอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หากได้รับการมอบหมายจากประธานสภา ตนจะใช้ 4 ปีที่มีอยู่เป็น กลางให้ได้มากที่สุด และทุกความสามารถในการพัฒนาองค์กรนี้ให้มีสมรรถนะสูง เป็นระบบราชการที่ทันสมัย ตอบสนองพี่น้องประชาชนและการทำงานของเพื่อนสมาชิกและจะยกระดับรัฐสภาให้ดีขึ้นได้ สัญญาว่าจะสนับสนุนการทำงานของประธานสภาให้ดีที่สุด บริการสมาชิกทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
สำหรับนายปดิพัทธ์ อายุ 42 ปี ทำงานเป็นนายสัตวแพทย์ และการพัฒนาเยาวชนและแก้ไขปัญหาสังคมกับสมาคมนักศึกษาคริสเตียนไทย ก่อนปักธงส.ส.ครั้งแรก ในนามพรรคอนาคตใหม่ เมื่อปี 2562
ด้าน นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน กล่าวว่า ตนจะปฏิบัติตามพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และจะยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และจะฟื้นฟูสำนักงานสภาผู้แทนฯ ประจำภาคต่างๆ ให้เป็นประโยชน์กับประชาชน เบื้องต้น 5 แห่งเป็นอย่างน้อย
และให้โอกาสสมาชิกหารือความเดือดร้อนของประชาชนจากคนละ 2 นาที เพิ่มเป็น 3 นาที ทำให้ประชุมป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยุติธรรม และเป็นกลาง ให้เกียรติสมาชิก และจะปฏิบัติตามที่ประธานสภามอบหมายในเรื่องต่างๆ
ดำเนินการให้สมาชิกมีศักยภาพในการพัฒนาประเทศ กอบกู้เกียรติยศศักดิ์ศรีสภา ถ่วงดุลฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ อำนวยความสะดวกให้กรรมาธิการสามัญและกรรมาธิการวิสามัญในการแก้ปัญหาให้ประชาชน ให้ความสำคัญกับระบบการรักษาความปลอดภัยของสภา เพื่อให้สมาชิกมีความปลอดภัย
นายพิเชษฐ์ปัจจุบันอายุ 60 ปี เป็นส.ส. 5 สมัย เคยดำรงตำแหน่งประจำสำนักเลขาฯนายกรัฐมนตรี 2 สมัย เป็นอดีตที่ปรึกษา รมช.เกษตรฯ อดีต กมธ.การเงินการคลังฯ
