ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ลงมติ ให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชาติ เป็นประธานสภา ผู้แทนฯ โดยไม่ต้องลงคะแนน เนื่องจากไม่มีการเสนอชื่อคนอื่นมาแข่งขัน

ส่วนรองประธานสภาผู้แทนฯ คนที่ 1 ที่ประชุม ลงมติเลือกนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ด้วยคะแนน 312 เสียง เนื่องจาก มีผู้เสนอชื่อคนอื่นแข่งขัน

ขณะที่รองประธานสภาผู้แทนฯ คนที่ 2 คือ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรค เพื่อไทย โดยไม่ต้องลงมติ เนื่องจากไม่ผู้เสนอชื่อ คนอื่นแข่งขัน

เป็นอันว่าอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติในส่วน ของสภาผู้แทนฯ ซึ่งประธานจะเป็นประธานรัฐสภาอีกตำแหน่ง มีประธานและรอง ครบถ้วนสมบูรณ์

สภาผู้แทนฯ เป็นองค์กรอำนาจทางการเมืองเดียวในขณะนี้ของประเทศ ที่มาจากการ เลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีที่มาและยึดโยงประชาชน

เมื่อเป็นเช่นนี้จึงเป็นที่คาดหวังอย่างสูงจากประชาชน เนื่องจากเป็นหนึ่งในองค์กรอำนาจอธิปไตย มีหน้าที่ถ่วงดุลฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการ มีหน้าที่โดยตรงในทางนิติบัญญัติ การตรา หรือแก้ไขกฎหมายต่างๆ

โดยประธานและรองประธานสภาผู้แทนฯ ชุดล่าสุดนี้ แต่ละท่านได้แสดงวิสัยทัศน์ต่างๆ ที่ จะปฏิบัติหน้าที่ เช่น พิจารณาร่างกฎหมาย ญัตติ กระทู้ถาม ตรวจสอบการใช้งบประมาณ ความ เดือดร้อนประชาชน ความโปร่งใส ประสิทธิภาพ และความทันสมัยสากล เป็นต้น

นี่คือสัญญาที่ให้ไว้ต่อที่ประชุมสภาผู้แทนฯ และส่งต่อไปยังประชาชน

ก่อนหน้าที่จะได้ข้อยุติเรื่องประธานสภาผู้แทนฯ มีความเห็นไม่ตรงกันระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย 2 ใน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

โดยทั้ง 2 พรรคต่างผลักดันสมาชิกของตนให้ได้เป็น ในที่สุดนำมาสู่ทางออกที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พรรคที่มีจำนวน ส.ส.อันดับ 3 ของพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล

พร้อมออกแถลงการณ์ร่วมกันยืนยันเห็นชอบ กฎหมายสําคัญเพื่อประชาชน การนิรโทษกรรมคดีแสดงออกทางการเมือง แก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ พ.ร.บ.จัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ร.บ.กฎอัยการศึก และพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เป็นต้น

จึงคาดหวังว่ารัฐบาลและสภาผู้แทนฯ ชุดใหม่จะผลักดันกฎหมายตามที่หาเสียงไว้ และตามเจตนารมณ์ที่ประชาชนแสดงออกผ่านการเลือกตั้ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน