ความเห็นของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ต่อพรรคก้าวไกล แหลมคมอย่างยิ่ง

เมื่อมีความแหลมคมที่ตามมาก็ย่อมจะมากด้วยความร้อนแรง กระทั่งกลายเป็นประเด็นในลักษณะทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์โดยอัตโนมัติ

เพราะเป็นความเห็นในลักษณะ “ฟันธง”

ฟันธงว่าการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 จะดำเนินไปในลักษณะเอาหัวโขกกำแพง ไม่มีความ เป็นไปได้ จึงไม่เข้าใจว่าทำไปทำไม

ฟันธงว่า ในที่สุดพรรคก้าวไกลจะเป็น “ฝ่ายค้าน”

กรณีรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ร้อนแรงอยู่แล้ว การเป็น ฝ่ายค้านยิ่งแหลมคม

เป็นความแหลมคมเพราะมีความเชื่อกระจายขยายตัว อย่างกว้างขวางว่าเป้าหมายของกลุ่ม “อำนาจ” ในทาง การเมืองต้องการเช่นนั้น

ต้องการรุกบีบและไล่พรรคก้าวไกลให้เป็น “ฝ่ายค้าน”

ยิ่งเห็นบรรยากาศในที่ประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมยิ่งชัดเจน ไม่ว่าจะมาจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่า จะมาจากเหล่า 250 ส.ว.

คำถามก็คือ ทำไม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จึงฟันธง

ต้องยอมรับว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็น “ผู้อาวุโส” ในทางการเมือง

เมื่อมองไปยังแต่ละจังหวะก้าวของพรรคก้าวไกล ย่อมมีความเป็นห่วง และมีความเข้าใจว่าเหตุใดพรรคก้าวไกล จึงเป็นเช่นนั้น

เป็นความเข้าใจเหมือน “ผู้ใหญ่” มอง “ผู้เยาว์”

เพียงแต่มองอย่างเห็นความสำคัญ และประเมินว่าความสำคัญนั้นพรรคก้าวไกลจำเป็นต้อง “เสียสละ” ออกจากหมู่พวกไปเป็น “ฝ่ายค้าน”

เพียงแต่ว่า “เสียสละ” เพื่อใคร

เหมือนกับว่าเป็นการเสียสละเพื่อ “ประชาชน” แต่ทำไม ต้องเป็น “ก้าวไกล”

ทำไมจึงไม่เป็นการเสียสละของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของพรรคพลังประชารัฐ ของพรรคภูมิใจไทย ของพรรคประชาธิปัตย์ ของ 250 ส.ว.

ทำไมต้องเป็น “ก้าวไกล” ที่เล่นบท “ผู้เสียสละ”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน