“วันป่าชายเลนโลก” ตรงกับวันที่ 26 กรกฎาคม ของทุกปี ในปีนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับภาคีชุมชนชายฝั่งเครือข่ายพันธมิตรและจังหวัดกระบี่ จัดกิจกรรม “วันสากลเพื่อการอนุรักษ์ระบบนิเวศป่าชายเลน” ที่บ้านต้นทัง ต.คลองยาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาการแทนอธิบดี นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DITTO และประชาชน เยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมงาน

หลังจากการเปิดงานประชาชนและเยาวชนที่เข้าร่วมงานได้ร่วมกันปลูกต้นถั่วขาว เพื่อสร้างพื้นที่ระบบนิเวศป่าชายเลนเพิ่มด้วย

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัด ทส.กล่าวว่า ทส.ได้ประกาศเจตนารมณ์ที่จะยกระดับการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเต็มที่ด้วยทุกวิถีทาง เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ.2050 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ.2065 โดยเฉพาะการเดินหน้าส่งเสริมการปลูกป่าเพื่อพัฒนากลไกตลาดคาร์บอนเครดิตให้เป็นรูปธรรมผ่านความร่วมมือของทุกภาคส่วน ในการแก้ปัญหาวิกฤตการณ์โลกร้อน พร้อมกับมอบหมายให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จัดทำโครงการปลูกป่าชายเลน เพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตสำหรับบุคคลภายนอกและสำหรับชุมชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคประชาชนที่เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวให้ประสบความสำเร็จ

ต่อมา บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้นำสื่อมวลชนเดินทางไปชมแปลงปลูกป่าชายเลน แปลงล่าสุดที่ DITTO ได้เข้ามาดำเนินการร่วมส่งเสริมพื้นที่ ที่ชุมชนบ้านโคกยูง ม.3 ต.คลองยาง อ.เกาะลันตา จ.กระบี่

ด้าน นายฐกร รัตนกมลพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดิทโต้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการปลูกป่าเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิต บริษัท สยาม ทีซี เทคโนโลยี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยโดยมี DITTO ถือหุ้น 100% เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ปลูกและดูแลรักษาป่าชายเลนเพื่อประโยชน์คาร์บอนเครดิต ระยะเวลา 30 ปี ที่ จ.นครศรีธรรมราช สตูล ตรัง กระบี่ พังงา ระนอง สุราษฎร์ธานี และชุมพร รวมทั้งสิ้น 110,948.47 ไร่ บรรลุตาม เป้าหมายตามที่ตั้งไว้ 1 แสนไร่แล้ว

“การทำสิ่งนี้เริ่มจากโลกเราร้อนขึ้น เป็นปัญหาที่ทั่วโลกตระหนัก จึงได้มีการประชุมร่างสัญญาร่วมกันว่าบริษัท หรืออุตสาหกรรมที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา สร้างมลพิษให้กับโลก จะรับผิดชอบอย่างไร จึงต้องมีบทกำหนดให้บริษัทเหล่านี้ สร้างพื้นที่คาร์บอนเครดิต สร้างสิ่งแวดล้อมดูแลป่าทดแทนโลก ดังนั้น เราจึงปลูกป่า โดยเฉพาะป่าชายเลนเพื่อลดก๊าชคาร์บอน โดยป่าชายเลนจะสามารถดูดซึมก๊าซคาร์บอนฯ ได้มากกว่าถึง 4 เท่า” นายฐกรกล่าว

ขณะนี้บริษัทได้ขึ้นทะเบียนกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และในระหว่างนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดทำเอกสารต่างๆ เพื่อเข้าร่วมโครงการ Premium T-VER ซึ่งเป็นโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานขั้นสูงสุดของประเทศไทย

ในอนาคตหลังจากที่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่แล้ว คาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งดำเนินการนำร่างพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาและนำเสนอต่อรัฐสภาออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ต่อไป เพื่อรองรับการแก้ปัญหาภูมิอากาศระดับประเทศและระดับนานาชาติ

พร้อมทั้งรองรับการตั้งกำแพงภาษีของประเทศผู้นำเข้า เช่น CBAM ของสหภาพยุโรป ที่จะส่งผลกระทบกับผู้ส่งออกสินค้าของไทยไปยังประเทศดังกล่าวให้สามารถปรับตัวได้ทันสถานการณ์

การที่เราได้เตรียมพื้นที่คาร์บอนเครดิตไว้ถือเป็นการเตรียมพร้อมรับพระราชบัญญัติการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่จะเกิดขึ้น เพราะประเทศอื่นๆ ได้เริ่มทำไปแล้ว เมื่อพระราชบัญญัตินี้ออก บริษัทอุตสาหกรรมต่างๆ จะต้องมาลงทุนซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อทดแทนคาร์บอนที่ตัวเองสร้างขึ้น และจะมีการลงทุนในเหรียญโทเคน ซึ่งทาง DITTO ได้เซ็นสัญญาแต่งตั้งบริษัท โทเคน เอ็กซ์ ในเครือ เอสซีบี เป็นผู้ดำเนินการ ขณะนี้มี ผู้สนใจติดต่อสอบถามเข้ามาจำนวนมาก คาดว่าต้นปี 2567 จะเปิดให้ผู้สนใจเข้ามาลงทุนในเหรียญโทเคนได้

“เราได้ช่วยเหลือชุมชนอย่างยั่งยืน ช่วยชาวบ้านในการดูแลป่า เมื่อป่าชายเลนอุดมสมบูรณ์ จะเป็นพื้นที่ที่สามารถอนุบาลสัตว์น้ำได้ ชาวบ้านจะได้ทำประมง มีอาชีพ มีรายได้ เรายังได้มอบทุนให้ทุกชุมชนที่ร่วมโครงการไว้ตั้งต้นดูแลพื้นที่ของตนเอง ชุมชนละ 2 แสนบาท รวมเป็นเงิน 2.8 ล้านบาท เมื่อมีการลงทุนเหรียญโทเคน พื้นที่คาร์บอนเครดิต ชาวบ้านก็จะได้ประโยชน์อีก” นายฐกรกล่าว

นายวินัย ผิวดำ กำนันตำบลห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ในนามตัวแทนสมาชิกป่าชายเลนสำหรับชุมชน กล่าวว่า ในนาม ผู้แทนภาคประชาชน ต้องขอขอบคุณกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ที่คอยเป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตสำหรับชุมชน พร้อมทั้งมอบหนังสืออนุมัติโครงการปลูกป่าชายเลนเพื่อประโยชน์จากคาร์บอนเครดิตสำหรับชุมชน เพื่อขับเคลื่อนบริหารจัดการทรัพยากรป่าชายเลนร่วมกัน เพื่อคืนความสมบูรณ์ให้กับป่าชายเลน ประชาชนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากป่าชายเลน สัตว์ทะเลน้อยใหญ่ ต่างเข้ามาอยู่อาศัย สร้างอาชีพและรายได้ให้กับชุมชน

นอกจากนี้ ขอขอบคุณบริษัท สยาม ทีซี เทคโนโลยี จำกัด ในการสนับสนุนงบประมาณต่อยอดการดำเนินโครงการ เพื่อฟื้นฟูสภาพป่าชายเลนในพื้นที่ป่าชายเลนสำหรับชุมชน ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้ามามีบทบาทในการดูแลทรัพยากรป่าชายเลน ผ่านการดำเนินโครงการ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการจัดการลดก๊าซเรือนกระจก โดยสมาชิกป่าชายเลนสำหรับชุมชนทุกพื้นที่พร้อมจะเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการดังกล่าว เพื่อมุ่งสู่การเป็นต้นแบบที่เป็นสังคมคาร์บอนต่ำสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าชายเลนมากเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง ไม่เพียงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในฐานะแหล่งอาหาร ยา พลังงาน และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในพื้นที่ แต่ยังเป็นแหล่งดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จากวิกฤตการณ์โลกร้อนที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนทั้งทางตรงและทางอ้อม ประเทศไทยจึงเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน