เชื่อว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้จัดตั้งรัฐบาล 99% เพราะถ้าจะโหวตเลือกนายกฯ ชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ต้องปลดล็อกมติรัฐสภา เมื่อ 19 ก.ค.ให้ได้ก่อน

แม้พรรคก้าวไกลจะได้เสียงจากการเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 1 แต่ในระบบรัฐสภาไม่ได้เลือกผู้บริหารโดยตรง จะมีกลไกที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการเมืองในรัฐสภาด้วย แต่ในรัฐสภาต้องตอบโจทย์หรือตอบเจตจำนงที่ประชาชนให้มาด้วยเช่นกัน

ในแง่ของกระบวนการที่จะไปมีเสียงสนับสนุนจากสว.หรือจากสส.ต่างๆ คงเป็นไปได้ยาก ดังนั้นต้องมีการเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งตอนนี้นำโดยพรรคเพื่อไทย หรือพรรคอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้

สูตรจัดตั้งรัฐบาลนั้น ท้ายที่สุดเป็นไปได้หมด อาจไปตกกับพรรคอันดับ 3 ภูมิใจไทย หรือพรรคอันดับ 4 พลังประชารัฐ หรือแม้การมีนายกฯ นอกบัญชี ชั่วโมงนี้การเมืองพลิกไปได้ทุกอย่าง

สูตรจัดตั้งรัฐบาล เป็นไปได้หมด อาจไปตกกับพรรคอันดับ 3 ภูมิใจไทย หรือพรรคอันดับ 4 พลังประชารัฐ หรือการมีนายกฯ นอกบัญชี ชั่วโมงนี้การเมืองพลิกไปได้ทุกอย่าง

สำหรับคุณสมบัติของนายกฯ ใหม่ ต้องเป็นคนที่มีความสามารถนำประเทศไทยไปสู่เวทีโลกได้ และนำประเทศไทยไปสู่อนาคตข้างหน้าได้ รวมถึงเป็นนายกฯ ที่ประชาชนยอมรับ ตรงนี้เป็นสิ่งที่สำคัญมาก และ นายกฯคนนี้จะต้องเป็นคนที่นำประเทศไทยไปแข่งขันหรือยืนในเวทีโลก และต้องมีที่มาที่ไปตามกระบวนการประชาธิปไตย

ส่วนใครเหมาะเป็นนายกฯ คนที่ 30 มองว่า ต้องเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่เหลืออยู่ในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นนายกฯ คนใด ขอให้มาจากฝ่ายประชาธิปไตย

ขณะที่การที่จัดตั้งรัฐบาลล่าช้า หากดูตามกฎหมายได้เปิดช่องให้ทำได้ ซึ่งในรัฐธรรมนูญไม่ได้เขียนไว้ว่าจะต้องให้เสร็จภายในกี่วัน ขณะนี้มีความพยายามจะใช้สูตร 10 เดือน ซึ่งไม่มีใครยืนยันการันตีได้ว่า จะได้นายกฯ อย่างที่ประชาชนต้องการ ในอีก 10 เดือนข้างหน้าอาจจะได้นายกฯ ที่ประชาชนไม่ต้องการก็ได้ อาจมีตัวแปรแทรกซ้อนเข้ามา

เมื่อได้รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้ว ควรเร่งแก้ปัญหา สำหรับระยะสั้นควรแก้ปัญหาเรื่องปากท้องของประชาชน ความเป็นอยู่สังคม แก้จน ปัญหาเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยว ส่วนปัญหาระยะยาว ต้องแก้รัฐธรรมนูญให้ ทันยุคทันสมัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน