ทส. – นายเผด็จ ลายทอง ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า กรมอุทยานฯ ได้จัดโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร มูลนิธิ บริษัท กลุ่มบุคคล หรือบุคคล มีส่วนร่วมในการดูแลรักษาสัตว์ป่าของชาติ ผ่านกระบวนการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการดูแลจัดการสุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ป่าในกรงเลี้ยง โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่อยู่นอกเหนือแผนการเพาะขยายพันธุ์ตามการดำเนินงานปกติของภาครัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมักพบปัญหาด้านสุขภาพร่วมด้วย จำเป็นต้องได้รับการดูแลอนุบาลอย่างเร่งด่วน และสัตว์ป่าจำนวนหนึ่งไม่สามารถปล่อยคืนสู่ธรรมชาติได้ ต้องได้รับการดูแลในกรงเลี้ยงจนกว่าจะสิ้นอายุขัย

ปัจจุบันสัตว์ป่าในกรงเลี้ยงที่อยู่ในความดูแลของ กรมอุทยานฯ ที่มาด้วยกันหลายกรณี ได้แก่ สัตว์ป่าที่เพาะเลี้ยงขยายพันธุ์เพื่อปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ สัตว์ป่าของกลางที่ได้รับมาจากการตรวจยึด จับกุม สัตว์ป่ากรณีแก้ไขปัญหา สัตว์ป่าพลัดหลงออกมาสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน สัตว์ป่าที่ได้รับคืนจากผู้ได้รับใบอนุญาตครอบครอง และสัตว์ป่าที่รับมาจากกรณียกเลิกกิจการสวนสัตว์สาธารณะ สัตว์ป่าดังกล่าวอยู่ในความดูแลของสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก รวมทั้งสิ้น 27 แห่ง ซึ่งสัตว์ป่าทุกตัวที่อยู่ในกรงเลี้ยง จะต้องได้รับการดูแลจัดการด้านสุขภาพและสวัสดิภาพอย่างเหมาะสม ซึ่งนอกจากจะเป็นหน่วยงานที่รับดูแลสัตว์ป่าแล้ว ยังเป็นศูนย์การเรียนรู้ที่เปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาศึกษาและมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สัตว์ป่าด้วย

นายเผด็จกล่าวว่า ขอเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเป็นพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า ในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่า และศูนย์พัฒนาการจัดการสัตว์ป่าบึงฉวาก โดยการโอนเงินบริจาคเข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์บางเขน เลขที่บัญชี 980-216-5379 ชื่อบัญชีโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่าในสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า ซึ่งการรับบริจาคดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ (กคร.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2566 และมีระยะเวลาการรับบริจาคถึงวันที่ 31 ธ.ค.2566

สำหรับสถานที่เลี้ยงสัตว์ป่าในโครงการมีทั้งสิ้น 27 แห่ง อาทิ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าช่องกล่ำบน จ.สระแก้ว, สถานีเพาะเลี้ยงนกน้ำบางพระ จ.ชลบุรี, สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสอยดาว จ.จันทบุรี, สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาสน จ.ราชบุรี, สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าห้วยทราย จ.เพชรบุรี, สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าพังงา จ.พังงา และสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าโตนงาช้าง จ.สงขลา เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน