การแถลงจับมือจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยกับภูมิใจไทย ด้วยเสียงตั้งต้น 212 เสียง ทำให้ประเมินกันว่าโอกาสหวนมาจับมือกับพรรคก้าวไกลคงเหลือน้อยเต็มที และยังมองได้ว่าเป็นการปิดช่องการเกิดสมการแทรกซ้อนชิงเก้าอี้นายกฯ จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ด้วย

แต่สูตรรัฐบาลที่ไม่มีก้าวไกล ทำให้การรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลไม่ง่าย ขณะเดียวกันแรงต้าน ‘มีเราไม่มีลุง’ จากมวลชนกลุ่มต่อต้านเผด็จการ รวมทั้งจากฝั่งผู้สนับสนุน และสส.ของพรรคเพื่อไทยเอง ก็เพิ่มข้อจำกัดต่อการหาแนวร่วมเพื่อส่งนายเศรษฐา ทวีสิน ขึ้นนั่งนายกฯ

จึงไม่แปลก นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรค เน้นย้ำระหว่างแถลงจับมือกับภูมิใจไทยเมื่อ 7 ส.ค. จะทำการเมืองอย่างสร้างสรรค์ เปิดกว้างให้ สส. สว.มีส่วนร่วมเลือกนายกฯเพื่อผ่าทางตัน ฝ่าวิกฤตรัฐธรรมนูญ

ยืนยันไม่ดึงพรรค 2 ลุงมาร่วมรัฐบาล แต่ไม่ปฏิเสธเงื่อนไขถ้าจะมี สส. สว. เป็นรายบุคคล หรือกลุ่มบุคคลมาโหวตสนับสนุนนายกฯของพรรคเพื่อไทย

ข้อเรียกร้องดังกล่าวของเพื่อไทยทำให้สังคมโฟกัสไปที่ความเคลื่อนไหวของ สส.หลายกลุ่มจากหลายพรรค ที่มีข่าวมาอย่างต่อเนื่อง

เริ่มจากพรรครวมไทยสร้างชาติ กลุ่มของ ‘เสี่ยเฮ้ง’ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน มีข่าวหนาหูตลอด พร้อมนำสส.โหวตหนุนเพื่อไทย

ล่าสุด เจ้าตัวแย้มว่า สส.มีเอกสิทธิ์ ถ้าใช้เอกสิทธิ์แล้วทำความเจริญให้ชาติบ้านเมืองก็ต้องคิดอีกมุมนอกจากมองว่าพรรคจะว่าอย่างไร ถ้าโหวตตามมติพรรคแล้วประเทศชาติเสียหายจะทำหรือ

ขณะที่พรรคพลังประชารัฐ แม้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรค จะยืนยันเสียงแข็งว่าพรรคจะทำอะไรต้องเป็นมติพรรค ไม่ใช่กลุ่มไหนคิดจะทำอะไรก็ไป

แต่ก็ทิ้งท้ายให้คอการเมืองจินตนาการต่อได้จากที่ระบุว่า “เรื่องลุงไม่ใช่สาระสำคัญ เรื่องของบ้านเมือง เราจะร่วมแก้วิกฤตได้อย่างไร โดยเฉพาะเวลานี้ต้องเร่งจัดตั้งรัฐบาลให้เร็วที่สุด”

สำทับด้วยคำให้สัมภาษณ์ของนายภูมิธรรม ล่าสุด ประกาศสร้างมิติทางการเมืองใหม่หาทางออกให้ประเทศ เรียกร้อง สส. สว. สนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลแบบพิเศษ สลายขั้วทั้งหมด ไม่มีขั้ว ไม่มีลุง โดยยอมรับว่าเรียกร้องทั้งแบบรายบุคคล กลุ่มการเมือง พรรคการเมือง และสว.

เมื่อมองไปยังพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะเกิดความวุ่นวายภายในจนการเลือกหัวหน้าและกก.บห.พรรคชุดใหม่สะดุด ทำให้ข่าวเตรียมร่วมรัฐบาลภายใต้การนำของผู้บริหารชุดใหม่ต้องชะงักไปด้วย

มีเสียงคัดค้านจากซีกอดีตหัวหน้าพรรค และสาขาพรรคต่อการเข้าร่วมรัฐบาล สะท้อนผ่านคำพูดของ นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรค ที่ระบุ ไม่ใช่ความคิดของ 4 อดีตหัวหน้าพรรค แต่เป็นความคิดของสมาชิกพรรคว่าไม่ควรไปร่วมรัฐบาล แต่ควรใช้เวลาที่เหลืออยู่ฟื้นฟู กอบกู้พรรคอย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคน่าจะพิจารณา

แต่คอการเมืองเทน้ำหนักไปกับกรณี 6 ส.ค. หลังองค์ประชุมพรรคล่ม นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค เปิดแถลงเดือดถึงอีกขั้วในพรรค พร้อมขน 21 สส.ร่วมแถลงโชว์พลังไปในตัว สอดรับกระแสข่าวนำสส.ในกลุ่มหนุนแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย

แถมก่อนหน้านี้ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ยังบินไปแก้บนถึงฮ่องกง แต่ไม่ตอบได้พบนายทักษิณ ชินวัตร หรือไม่

และตอบคำถามถึงการผสมพันธุ์ต่างขั้วระหว่างประชาธิปัตย์กับเพื่อไทยอีกว่า วันนี้เอาประเทศชาติเป็นหลัก เอาความคิดแค้นส่วนตัว ความชิงชัง สมัยอดีตมาบวกทั้งหมดไม่น่าจะเหมาะสม

ในส่วนพรรคก้าวไกล แม้ก่อนหน้านี้จะมีเสียงดังมาจากระดับ ตัวตึง ทั้งจากนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ในฐานะกก.บห.พรรค ยืนยันหากต้องเป็นฝ่ายค้าน ก็จะไม่โหวตให้เพื่อไทย

แต่ล่าสุดมีข้อเสนอจาก พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ รองหัวหน้าพรรค อยากให้พรรคก้าวไกลสนับสนุนพรรคเพื่อไทย เพื่อปิดสวิตช์ สว. เป็นการเมืองแบบใหม่ ไม่ผูกติดอำนาจ

และล่าสุด ต้องจับตาท่าทีก้าวไกลหลังเพื่อไทยนำโดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย นำทีมเข้าหารือเพื่อขอเสียงด้วยตัวเอง

ฝากฝั่งสว.แม้จะยังมีสว.บางรายตั้งแง่กับแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย และถึงขนาดฟันธงว่านายกฯคนที่ 30 ไม่ใช่คนของเพื่อไทย อ้างเหลือแคนดิเดตนายกฯ แค่ 2 คนคือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

แต่จากความเห็นของ สว.วันชัย สอนศิริ เชื่อว่าโหวตรอบหน้าได้นายกฯแน่นอน ระบุ นับแต่ไม่มีเรื่องแก้มาตรา 112 และไม่มีพรรคก้าวไกล สว.หลายกลุ่มเห็นพ้องจะโหวตให้ใครก็ตามที่รวมเสียง ส่วนใหญ่ได้

แต่สถานการณ์การเมืองกว่าจะถึงวันโหวตนายกฯรอบหน้า ยังต้องจับตากันวันต่อวัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน