นายดิษทัต ปันยารชุน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ (OR) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,757 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 218 ล้านบาท มีรายได้ขายและบริการ 187,708 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อน 9,706 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมครึ่งแรกของปี 2566 มีกำไรสุทธิ 5,732 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4,681 ล้านบาท มีรายได้ขายและบริการ 385,122 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 3,600 ล้านบาท

“ช่วงครึ่งหลังของปีนี้มีปัจจัยที่ส่งผลต่อธุรกิจทั้งสภาพเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเติบโตทั้งจากการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นต่อเนื่อง การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว ตามการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว โดยปีนี้โออาร์มีแผนตั้งสถานีบริการพีทีที สเตชั่นเพิ่ม 100 แห่ง มากกว่าปีก่อนที่ตั้งได้ประมาณ 80 แห่ง ทั้งยังเร่งเดินหน้าธุรกิจใหม่ๆ สร้างยอดขายและกำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์ อาทิ ยางมะตอย น้ำมันอากาศยาน หรือผลิตภัณฑ์หล่อลื่น PTT Lubricants มั่นใจ 100% เต็มว่าไตรมาส 4 ปีนี้การดำเนินธุรกิจจะไม่ขาดทุนแน่นอน แต่การที่จะทำให้ยอดขายนั้นเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ก็ยอมรับว่ายาก เนื่องจากปัจจัยหลักด้านราคาน้ำมันที่ราคาต่ำกว่าปีที่แล้ว”

นอกจากนี้ ครึ่งหลังของปีนี้จะเน้นลงทุนที่สามารถต่อยอดธุรกิจในระยะยาว เพิ่มความหลากหลายในการดำเนินธุรกิจที่มีศักยภาพ โดยอยู่ระหว่างศึกษาและพัฒนารูปแบบของการดำเนินธุรกิจที่เหมาะสม เช่น ธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและที่พักที่เป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย และร่วมกับพันธมิตรในการขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศ ซึ่งเตรียมงบลงทุนไว้ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับลงทุนทั้งธุรกิจหลักและกลุ่มไลฟ์สไตล์ เช่น การนำแบรนด์ “อ๊อตเทริ วอชแอนด์ดราย” ไปเปิดสาขาแรกในประเทศกัมพูชา เสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 รองจากไทย

อย่างไรก็ตาม ภาพรวมผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2566 ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายท่ามกลางหลายปัจจัยเสี่ยงทั้งจากในและต่างประเทศ ระดับราคาน้ำมันในตลาดโลกผันผวนจากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และความกังวลต่อสภาวะการถดถอยของเศรษฐกิจในหลายประเทศ คาดว่าปีนี้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะอยู่ในกรอบ 70-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน