“พระราชสังวราภิมณฑ์” หรือหลวงปู่ โต๊ะ อินทสุวัณโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดประดู่ฉิมพลี ฝั่งธนบุรี ผู้มีคุณูปการต่อ พระบวรพุทธศาสนา เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งกิตติศัพท์ทางพุทธาคมเป็นเลิศ

อายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทโดยมีพระครูสมณธรรมสมาทาน (แสง) วัดปากน้ำภาษีเจริญ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอักขรานุสิต (ผ่อง) วัดนวลนรดิศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูธรรมวิรัติ (เชย) วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา อินทสุวัณโณ

มุ่งมั่นศึกษาและปฏิบัติทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระด้วยความวิริยอุตสาหะ ยังใฝ่ศึกษา และปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นเนืองนิตย์ ปลีกเวลาออกธุดงค์เพื่อฝึกฝนและศึกษาพุทธาคม จากพระเกจิชื่อดังหลายรูป อาทิ หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.สมุทรสาคร, หลวงพ่อเนียม วัดน้อย จ.สุพรรณบุรี, หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี, หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ ยานนาวา รวมทั้งหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง

มีสหธรรมิกผู้มีชื่อเสียงมากมาย ได้แก่ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค, หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ และหลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง

นับเป็นพระเกจิรูปสำคัญรูปหนึ่งในสมัยนั้น ที่ได้รับนิมนต์เข้าร่วมพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิตในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลระดับประเทศทุกงาน อาทิ พระหลวงปู่ทวด เนื้อว่าน ปี 2497, พระเครื่อง 25 พุทธศตวรรษ ฯลฯ

ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์เรื่อยมา สมณศักดิ์ สุดท้ายเป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชสังวราภิมณฑ์ ในปี พ.ศ.2521

มรณภาพด้วยอาการสงบ สิริอายุ 94 ปี พรรษา 73








Advertisement

หลังละสังขาร วัตถุมงคลแต่ละรุ่นล้วนหายากและเป็นที่กล่าวขวัญ

มีลูกศิษย์ที่สืบทอดสรรพวิชาด้านต่างๆ หนึ่งในนั้นคือ หลวงพ่อแอ่ม ชุติวัณโณ หรือพระมหาแอ่ม วัดน้ำตก บ้านท่าเสา หมู่ 3 ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

สำหรับหลวงพ่อแอ่ม มีนามเดิมว่า แอ่ม วรรณะ เกิดวันที่ 29 เม.ย.2484 พื้นเพเป็นชาว อ.พนมทวน โยมบิดา-มารดาชื่อ นายจิ๋น และนางเรือน วรรณะ ครอบครัวมีฐานะยากจน

วัยเยาว์ บวชเณรฝากตัวเป็นศิษย์พระธรรมคุณาภรณ์ หรือหลวงพ่อไพบูลย์ อดีตเจ้าอาวาส วัดไชยชุมพรชนะสงคราม (วัดใต้) อดีตเจ้าคณะ จังหวัดกาญจนบุรีในขณะนั้น

อายุ 20 ปี อุปสมบทที่พัทธสีมาวัดดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี โดยมีหลวงปู่โต๊ะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ห่วง ธัมมฺปาโล เป็นพระกรรมวาจารย์ พระแช่ม อาภากโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังอุปสมบท หลวงปู่โต๊ะแนะนำให้มาศึกษาพระธรรมวินัยที่สำนักเรียนวัดประดู่ฉิมพลี เน้นสอนวิปัสสนาธุระ และวิปัสสนากัมมัฏฐาน นาน 9 ปี

ต่อมาได้กราบลาหลวงปู่โต๊ะกลับมาตุภูมิ ที่วัดดอนเจดีย์ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดนี้จนถึงปี พ.ศ.2517

ได้รับมอบหมายให้ไปดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดน้ำตก จวบจนถึงปัจจุบัน ทั้งยังดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี และที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14

ปัจจุบันยังดำรงชีวิตอยู่ในวัย 82 ปี พรรษา 61

เพื่อย้อนรำลึกชาตกาล 136 ปี หลวงปู่โต๊ะ หลวงพ่อแอ่มจึงมีดำริจัดสร้างวัตถุมงคลเป็นพระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ (ย้อนยุค) รุ่นแรก พิมพ์กนกข้าง

ในเดือน มิ.ย.2566 อนุญาตให้คณะลูกศิษย์คือ ศุภกร วุฒิปรีชาเลิศ หรือ “ไช้ สาย 1” เป็นผู้จัดสร้าง

วัตถุประสงค์เพื่อจัดหารายได้บูรณะเสนาสนะภายในวัดน้ำตก และเพื่อรำลึกถึงบูรพาจารย์

จัดสร้างเป็นหลายเนื้อ อาทิ เนื้อผงเกสรน้ำมันโบราณ ตะกรุดทองคำ 5 ดอก เนื้อผงใบลาน, เนื้อผงธูป, เนื้อผงแร่เหล็กน้ำพี้, เนื้อกระยาสารท, เนื้อจินดามณี และเนื้อผงกระยาสารท เป็นต้น

ด้านหน้า ลักษณะเป็นพระปิดตานั่งขัดสมาธิ มีลายกนกทั้งซ้าย และขวาอยู่ระหว่างองค์พระ

ด้านหลัง ตรงกลางจะมีอักขรยันต์ตรี หรือยันต์ตรีนิสิงเห ซึ่งเป็นยันต์ มีพุทธคุณด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาดและหนุนนำดวงชะตาและยังมีชนวนมวลสาร อาทิ เกศาและจีวรหลวงพ่อแอ่ม ผงธูปวัดประดู่ฉิมพลี และผงธูปวัดน้ำตก, พระปิดตาหลวงปู่โต๊ะ, ผงเกสร, ผงพุทธคุณ ผงลบพระผงน้ำมัน แตกหัก หลวงพ่อกวย, ว่าน 108, ผงแร่น้ำพี้ จ.อุตรดิตถ์ และพลอยเสก เป็นต้น

รุ่นนี้หลวงพ่อแอ่มประกอบพิธีปลุกเสกเดี่ยว ที่อุโบสถวัดน้ำตก วันที่ 8 ก.ค.2566

สอบถาม โทร. 08-7970-2588

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน