เอเอฟพีรายงานวันที่ 20 ส.ค. ว่า หน่วยงานในองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) แถลงประณามรัสเซียต่อการโจมตีครั้งใหญ่ในเมืองเชอร์นีฮิวหรือเชียร์นีกอฟ แคว้นเชอร์นีฮิว ราว 150 กิโลเมตรทางตอนเหนือของกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และอีก 144 คนบาดเจ็บ โดยการโจมตีเกิดขึ้นในช่วงเฉลิมฉลองวันที่พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระวรกายรุ่งโรจน์ต่อหน้าอัครสาวกซึ่งเป็นวันหยุดสำคัญของศาสนาคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ และประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมพิธีในโบสถ์
น.ส.เดนิส บราวน์ ผู้ประสานงานด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นประจำยูเครน กล่าวว่า เป็นเรื่องเลวร้ายที่จะโจมตีจัตุรัสหลักของเมืองใหญ่ตั้งแต่ตอนเช้าขณะที่ผู้คนออกไปเดินเล่น บางคนไปโบสถ์เพื่อเฉลิมฉลองวันสำคัญทางศาสนาของชาวยูเครน “ดิฉันขอประณามรูปแบบการโจมตีของรัสเซียซ้ำแล้วซ้ำเล่าในพื้นที่ที่มีประชาชนชาวยูเครนอยู่อาศัย การโจมตีต่อพลเรือนหรือวัตถุพลเรือนเป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาดภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” ด้านกระทรวงวัฒนธรรมยูเครนแถลงประณามเช่นกัน เนื่องจากเชอร์นีฮิวซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์นับพันปีและได้รับการเสนอชื่อเพื่อเตรียมขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวว่า มีเด็กๆ 15 คนได้รับบาดเจ็บจากเหตุไร้มนุษยธรรม รวมถึงเด็กหญิงวัย 6 ขวบ “ทหารของเราจะตอบโต้รัสเซียต่อการโจมตีของผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้” นายเซเลนสกีให้คำมั่นระหว่างปฏิบัติภารกิจในสวีเดน โดยผู้นำยูเครนหารือกับนายกรัฐมนตรีอุล์ฟ คริสเตอช็อน ผู้นำสวีเดน ซึ่งระบุว่าจะเดินหน้าผลิต รถหุ้มเกราะต่อสู้ทางยุทธวิธีสูงซีวี 90 ในประเทศ “ทุกสิ่งที่มีประสิทธิภาพที่ให้เรามีในตอนนี้ เราต้องผลิตเป็นการภายในและเราจะทำเช่นนั้น” ทั้งสองผู้นำยังหารือเกี่ยวกับโครงการฝึกอบรม นักบินยูเครนเพื่อทดสอบการขับเครื่องบินขับไล่กริพเพนของสวีเดนด้วย
