นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของไทย (เงินเฟ้อ) ในเดือน ส.ค.2566 เท่ากับ 108.41 เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน สูงขึ้น 0.88% และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 0.38% ในเดือนก่อนหน้า

โดยมีการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการ ดังนี้ หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม สูงขึ้น 0.98% โดยเฉพาะราคาน้ำมัน เชื้อเพลิงที่สูงขึ้นตามราคาตลาดโลกเกือบทุกประเภท ยกเว้นกลุ่มดีเซล ขณะที่ค่าโดยสารสาธารณะก็ปรับเพิ่มขึ้นตามต้นทุน อาทิ เครื่องบิน จักรยานยนต์รับจ้าง และรถเมล์เล็ก สองแถว ที่รวมถึงค่ากระแสไฟฟ้า ราคาก๊าซหุงต้ม

ส่วนหมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้นเพียง 0.74% ราคาชะลอตัวต่อเนื่องจากปลายปี โดยมีสินค้าสำคัญที่ราคาสูงขึ้น อาทิ ไข่และผลิตภัณฑ์นม ไข่ไก่ นมสด นมถั่วเหลือง ผักและผลไม้สด เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน ปริมาณผลผลิตจึงออกสู่ตลาดน้อย

นายพูนพงษ์กล่าวถึงเงินเฟ้อเดือน ส.ค.2566 เทียบกับเดือน ก่อนหน้า สูงขึ้น 0.55% เป็นผลมาจากราคาสินค้าในหมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ที่สูงขึ้น 0.76% โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงที่ราคาสูงขึ้นทุกประเภท ทั้งกลุ่มน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซล รวมทั้งค่าเช่าบ้าน น้ำยาล้างจาน น้ำยารีดผ้า และน้ำยาปรับ ผ้านุ่ม ราคาเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชั่น ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 0.23% เช่น ข้าวสารเจ้า ข้าวสารเหนียว ไข่ไก่ นมเปรี้ยว อาหารเช้า และข้าวราดแกง

ส่วนอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ย 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 2566 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สูงขึ้น 2.01% ซึ่งอยู่ในกรอบเป้าหมายที่กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กำหนด 1.0-3.0% ส่วนแนวโน้มในเดือน ก.ย.2566 อาจปรับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากราคาพลังงานในระดับสูง รวมทั้งอุปสงค์ในประเทศที่อาจเพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ สถานการณ์ภัยแล้งที่รุนแรงกว่าปีที่ผ่านมาในหลายประเทศทั่วโลก ทำให้ปริมาณพืชผลการเกษตรและปศุสัตว์ลดลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน