สธ. – เมื่อวันที่ 10 ก.ย. นพ.อภิสรรค์ บุญประดับ ผอ.สำนักสนับสนุนระบบสุขภาพปฐมภูมิ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมหน่วยบริการปฐมภูมิให้รองรับการบริการแบบไร้รอยต่อ ว่า ขณะนี้กำลังทำระบบข้อมูล เพราะการจะให้ไร้รอยต่อต้องมีข้อมูลมาสนับสนุน ซึ่งการเตรียมระบบดังกล่าวจะสอดคล้องกับนโยบายยกระดับ 30 บาทรักษาทุกโรค กรณี “บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกที่” จะครอบคลุมการรับบริการหน่วยบริการ หรือ ร.พ.ระดับปฐมภูมิด้วย โดยจะกำหนดว่ามีบริการอะไรบ้างที่ทำได้ และการให้บริการในหน่วยบริการปฐมภูมิทำอะไรได้บ้าง รวมถึงจะพัฒนาเป็นระบบออนไลน์ เทเลเมดิซีน การนัดคิว ปรึกษาแพทย์ อย่างไรก็ตาม ข้อมูลระดับปฐมภูมิ จะรวมทุกระดับ ตั้งแต่ รพ.สต. ร.พ.ชุมชน และการส่งต่อต้องเชื่อมโยงข้อมูลไปยังร.พ.ทั่วไป ร.พ.ศูนย์ด้วย เพื่อให้ทุกอย่างเป็นข้อมูลเดียวกัน ทั้งนี้ ต้องค่อยๆ พัฒนา ทำเป็นเฟสๆ

“ตอนนี้อยู่ระหว่างพูดคุยว่าจะจัดบริการอะไรบ้าง แต่เราจะเน้นการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อรองรับการบริการประชาชนให้มากขึ้น ลดเวลาการเดินทาง ลดการรอคอย และการใช้เทคโนโลยีมาช่วยยังลดภาระงานบุคลากร” นพ.อภิสรรค์กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีนี้คือการนำระบบทีมหมอครอบครัวมาใช้ใช่หรือไม่ นพ.อภิสรรค์กล่าวว่า จริงๆ คือระบบหมอครอบครัว เพียงแต่เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น และมีระบบเทคโนโลยีมาช่วยหมอครอบครัวทำงาน จากเดิมจะเยี่ยมบ้าน ก็มีระบบข้อมูลมาซัพพอร์ต ประชาชนเข้าถึงบริการง่ายขึ้น

เมื่อถามว่าการดำเนินการดังกล่าว เป็นการจัดระบบรองรับป้องกันปัญหาการบริการประชาชนที่ รพ.สต.ถ่ายโอนไปท้องถิ่นหรือไม่ นพ.อภิสรรค์กล่าวว่า จริงๆ ต้องทำงานร่วมกัน โดยต้องหารือร่วมกับทาง อบจ. เพราะระบบสุขภาพปฐมภูมิต้องเชื่อมโยงทั้งหมด และการส่งต่อก็ต้องเชื่อมข้อมูลร.พ.ทุกระดับที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ทุกอย่างต้องหารือและทำข้อมูลแบบบูรณาการ

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการถ่ายโอนสถานีอนามัย และ รพ.สต. ไปยังองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในรอบปีงบประมาณ 2567 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ นพ.อภิสรรค์กล่าวว่า จากการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา ทางประธานอนุกรรมการระบุตัวเลขที่จะถ่ายโอนไป โดยระบุเป็นข้อมูลจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น (สถ.) แต่ทาง สธ.เสนอว่า ยังไม่ควรสรุปตัวเลขว่า มีรพ.สต.ถ่ายโอนกว่า 900 แห่ง และบุคลากรอีก 8,000 กว่าคน เนื่องจากไม่มีเอกสารชี้แจงรายละเอียดว่าถ่ายโอนจากรพ.สต.ไหน รายละเอียดอย่างไร

นพ.อภิสรรค์กล่าวว่า เบื้องต้นทางประธานที่ประชุมได้ลงมติตัวเลขดังกล่าว และจะนำเสนอต่อการประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (ก.ก.ถ.) ชุดใหม่รับรองมติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวเลขไม่มีข้อมูลประกอบ ทางกระทรวงสาธารณสุขจะทักท้วงในการประชุม ก.ก.ถ.ชุดใหม่เช่นกัน เพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน

เมื่อถามว่าทางประธานคณะอนุกรรมการบริหารภารกิจถ่ายโอนด้านสาธารณสุขฯ ระบุว่า ขอให้สธ.ส่งมอบวัสดุ ครุภัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆ ให้แล้วเสร็จ นพ.อภิสรรค์กล่าวว่า ประเด็นการส่งมอบวัสดุ ครุภัณฑ์อุปกรณ์ต่างๆ ไม่ได้มีปัญหา เพราะในพื้นที่มีการดำเนินการร่วมกันระหว่าง อบจ. กับทาง สสจ. ซึ่งบางพื้นที่ที่ไม่เรียบร้อยกำลังอยู่ระหว่างกระบวนการติดต่อ เช่น บางพื้นที่เช่าต้องเคลียร์ให้เสร็จ โดยทั้งหมดจะมีการสำรวจว่า ส่งมอบแล้วกี่แห่ง และตรงไหนยังมีปัญหา โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการ วันที่ 5 ต.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน