วันที่ 24 ก.ย. บีบีซีและเอเอฟพีรายงานว่า นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซียระบุระหว่างการแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์กว่า ในทางปฏิบัติแล้ว ชาติตะวันตกกำลังรบต่อต้านรัสเซีย โดยใช้มือและร่างกายของชาวยูเครน หลังจากกล่าวถ้อยแถลงที่การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือยูเอ็นจีเอในนครนิวยอร์ก ซึ่งได้ประณามชาติตะวันตกว่า เป็นจักรวรรดิแห่งการโกหก
นายลาฟรอฟชี้ว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ชาติตะวันตกจัดสรรให้ยูเครนมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากปฏิบัติการพิเศษทางทหารเมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้ว ตลอดจนกรณีที่สหรัฐและอังกฤษให้ความช่วยเหลือด้านข่าวกรองและการส่งที่ปรึกษาด้านทหาร ซึ่งนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐเคยระบุว่า ตนกำลังหาทางเลี่ยงการเผชิญหน้าโดยตรงกับรัสเซีย ซึ่งครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และจะไม่ส่งทหารสหรัฐ “กระผมคิดว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ ซึ่งให้ความสนใจแม้เพียงน้อยนิดต่อสถานการณ์ในยูเครนทราบเป็นอย่างดีว่าชาวอเมริกัน อังกฤษและอื่นๆ กำลังสู้รบ ซึ่งเหนืออื่นใดทั้งหมดกระทำผ่านการจัดหาอาวุธมากยิ่งขึ้น” นายลาฟรอฟกล่าวและยังชี้ถึงการส่งทหารรับจ้างชาวตะวันตก แม้สหรัฐและรัฐบาลชาติตะวันตกอื่นๆ ระบุว่า ทางการไม่สนับสนุนให้พลเมืองเดินทางไปยูเครน ซึ่งทำให้นักรบดังกล่าวเดินทางไปกันเอง ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในห้วงการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ นายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนร้องขอให้นานาชาติเพิ่มการสนับสนุนต่อต้านการรุกราน มากยิ่งขึ้นอีก โดยได้กล่าวที่การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี เรียกร้องให้เพิกถอนสิทธิ์ในการวีโต้หรือยับยั้งมติยูเอ็นเอสซีของรัสเซีย
วันเดียวกันกองทัพยูเครนออกแถลงการณ์ว่า ในเหตุโจมตีของยูเครนต่อสำนักบัญชาการใหญ่กองเรือทะเลดำของรัสเซียด้วยขีปนาวุธในคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันศุกร์ที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมานั้นถูกกำหนดขึ้นมาตั้งแต่แรก เพื่อให้การโจมตีเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการประชุมเจ้าหน้าที่ทหารเรือและยืนยันผลจากการโจมตีทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบราย รวมถึงในจำนวนนี้เป็นผู้บัญชาทหารเรือรัสเซีย 2 คน
