กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันทุกปีแล้ว สำหรับค่ายอาวดี้ จากแดนไส้กรอก ที่ต้องมีการจัดทริปคาราวาน นำรถอาวดี้ทุกรุ่นมาให้สื่อมวลชนได้ร่วมทดสอบสมรรถนะกัน

ล่าสุดผู้บริหารหนุ่ม กฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด หรืออาวดี้ ประเทศไทย จัดทัพอาวดี้มากกว่า 40 คัน มาครบทุกรุ่น ทดสอบกันบนเส้นทางกรุงเทพฯ-จ.นครราชสีมา

แต่ละคันมีนักทดสอบ 2 คน ‘ข่าวสด ยานยนต์’ ได้ทดสอบตัวจี๊ดในรุ่นอาวดี้ อี-ทรอน จีที ควอตโตร (Audi e-tron GT quattro) รถสปอร์ต จีที 4 ประตู ขับเคลื่อนสี่ล้อไฟฟ้า 100% อาสาทดสอบขับขาไปรวดเดียวจบ เพื่อให้ได้ระยะทางการทดสอบพอสมควร

ดีไซน์ของเจ้าอาวดี้ อี-ทรอน จีที ควอตโตร ขับเน้นความสปอร์ตเต็มพิกัด ตัวรถค่อนข้างเตี้ย แต่ไม่ได้ทำให้การเข้า-ออกตัวรถลำบาก มากนัก ประตูรถเปิดได้กว้างพอสมควร ด้วยเพราะความยาวตัวรถเกือบ 5 เมตร

กล้ามมัดรอบคันแน่นตึบ ตั้งแต่ฝากระโปรง ซุ้มล้อ ไปจนถึงด้านท้าย ขณะที่มิติความกว้างทะลุ 2 เมตร จอดในห้างเต็มซองพอดี ถ้าจะให้เหมาะ ควรไปจอดที่จอดรถซูเปอร์คาร์

กระจังหน้าปิดทึบ ตามสากลนิยมของรถไฟฟ้า 100% ทั่วไป ไฟหน้าแบบ Matrix LED พร้อมไฟ Audi laser ดีไซน์แปลกตา เปิด-ปิด ไฟสูง อัตโนมัติ

หลังคา panoramic glass sunroof เปิดโล่งมองเห็นท้องฟ้าตลอดเวลา ดีว่าเป็นกระจกตัดแสง ช่วยลดความร้อนลงไปได้อย่างมาก ไฟท้าย LED ที่เก็บสัมภาระด้านท้าย ใส่กระเป๋าใบย่อม แบบ 2 วัน 1 คืน สำหรับ 4 คนได้สบายๆ

เข้าไปด้านใน พวงมาลัยท้ายตัดขนาดใหญ่ มัลติฟังก์ชัน เบาะนั่งหุ้มหนังตัวเบาะเตี้ยตามตัวรถ ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง เบาะนั่งหลัง มีช่องแอร์ให้พร้อม แต่พื้นที่วางขาค่อนข้างน้อย ลองนั่งดูแล้วเข่าชันเล็กน้อย

หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว แจ้งข้อมูลต่างๆ ชัดเจนไม่ต้องเพ่งนาน หน้าจอกลางระบบสัมผัส รองรับแอปเปิ้ล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์ ออโต พร้อมทั้งทำหน้าที่เพื่อสั่งการระบบต่างๆ รวมถึงปรับแต่งสมรรถนะตัวรถ

เกียร์อัตโนมัติ 2 สปีด (ไม่ผิด 2 สปีดจริงๆ) เพราะเป็นเกียร์ไฟฟ้า ใช้งานด้วยการกดปุ่ม ใช้เวลาสร้างความคุ้นชินอยู่พอสมควร

กดปุ่มสตาร์ต เสียงในห้องโดยสารเงียบกริบ ถึงขนาดต้องเข้าไปแต่งเสียงสังเคราะห์ ให้เป็นแบบ Dynamic เพื่อเพิ่มความเร้าใจ กำลังของมอเตอร์ 2 ตัว ช่วยกันขับกำลังออกมาได้สูงสุด 476 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 630 นิวตัน-เมตร

เรียกมาใช้งานได้ตั้งแต่ตีนต้น ทำให้การขับขี่ในเมืองช่วงต้น ย่าน ถ.เลียบทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ทำได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว แม้ตัวรถจะกว้างและยาว แต่ยังเร่งแซงได้อย่างสบายมือ

วิ่งเข้า ถ.กาญจนาภิเษก ต่อเนื่องไปถึง ถ.มิตรภาพ เริ่มทำความเร็วได้ ปรับแต่งเครื่องยนต์ ให้เป็นโหมด Dynamic ส่วนช่วงล่างเปลี่ยนเป็นโหมด Comfortable

ได้ความแรง กระชับ หนึบแน่น แต่ยังคงนุ่มนวลอยู่พอประมาณ เมื่อเทียบกับความเตี้ยของตัวรถแล้ว แรงกระแทกจากช่วงล่าง ควรจะมากกว่านี้

ตลอดระยะทางทำความเร็วอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 100 ก.ม.ต่อช.ม. 120-140 ก.ม.ต่อช.ม. เป็นส่วนใหญ่ จะมีบ้างที่ไต่ทะลุ 180 ก.ม.ต่อช.ม. เวลาแซง หรือถนนโล่งสุดๆ

ตัวรถบนย่านความเร็วสูง ไม่ได้มีอาการสั่นไหวให้ได้รู้สึกเลยแม้แต่น้อย ส่วนการเข้าโค้ง หรือเปลี่ยนเลนกะทันหัน มีแรงเหวี่ยงเล็กๆ อยู่บ้าง ไม่ถึงกับหัวสั่นหัวคลอน

เส้นทางจาก อ.มวกเหล็ก ถึง อ.ปากช่อง มีทางชันขึ้นเขาเป็นช่วงๆ ดีว่าเป็นถนน 4 เลน ลัดเลาะซอกแซก โยกซ้าย แซงขวา เพื่อนร่วมถนนที่ขับช้าอยู่ข้างหน้า ไต่ไปได้แบบไม่มีอาการอืดให้ได้สัมผัส

ขณะที่ช่วงลงทางชัน ถอนเท้าจากคันเร่งแล้ว แต่รู้สึกว่าตัวรถยังพุ่งทะยาน ปรับเพิ่มการคืนกำลังไฟฟ้า ที่ติดอยู่หลังพวงมาลัย ตำแหน่งเดียวกับแพดเดิล ชิฟต์ เพื่อหน่วงตัวรถให้มากขึ้น ช่วยให้ลดการใช้เบรกไปได้อย่างมาก

ถึงจุดพักแรกเหลือบดูข้อมูล พบว่าใช้กำลังไฟฟ้าไป 50% ทำระยะทางไปแล้ว 164.9 ก.ม. ยังเหลือวิ่งได้อีก 243 ก.ม. ใกล้เคียงกับที่ระบุไว้ก่อนออกจากจุดเริ่มต้น ไฟฟ้าเต็ม 100% สามารถวิ่งได้ระยะทาง 411 ก.ม. คิดแล้วกำลังไฟฟ้า 1 kWh วิ่งได้ 4.8 ก.ม. กับความเร็วเฉลี่ย 87 ก.ม.ต่อช.ม. ถือว่าประหยัดไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่จะคุ้มกับค่าตัวเริ่มต้นที่ 6.849 ล้านบาท ขณะที่ตัวแต่งพิเศษ Performance ราคาอยู่ที่ 7.249 ล้านบาท แต่ถ้าขยับไปเป็นตัวแรงสุดๆ RS ราคา 10.019 ล้านบาท

แวะไปพิสูจน์กันได้ด้วยตัวเอง ที่โชว์รูม อาวดี้ ทั่วประเทศ

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน