แนะแก้ควบคู่กันนายกนครนนท์จี้กระจายอำนาจ
โหวตคึกคัก ‘โพลมติชน- เดลินิวส์’ กระหึ่ม ‘ผู้ว่าฯ ชัชชาติ’ ชี้ต้องแก้ปัญหาการเมือง-เศรษฐกิจควบคู่กัน เพราะสำคัญทั้งคู่ ชวนประชาชนร่วมโหวตเพื่อเป็นแนวทางให้รัฐบาล ‘สมนึก’นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนนทบุรีขอรัฐบาลชุดปัจจุบัน ส่งเสริมการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เร่งแก้คำสั่งของคสช.ที่ 8/2560 รวบอำนาจการบริหารงานบุคคลไปไว้ที่ส่วนกลาง เป็นปัญหาให้กับท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง ทำให้การบริหารงานของท้องถิ่นล่าช้า ขณะที่ ‘วิจารณ์’ ฮีโร่มวยเหรียญทองโอลิมปิก 2000 ก็ร่วมโหวตจากเมืองหางโจว ชื่นชมกิจกรรมนี้ดี เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยมาก ประธานมูลนิธิสืบฯ แนะรัฐเร่งแก้โครงสร้างการเมือง ชี้เป็นกลไกการขับเคลื่อนทุกมิติ พร้อมเชิญชวนทุกคนร่วมสแกน ประธานหอการค้าจังหวัดเพชรบูรณ์หนุนเศรษฐาทำ ‘ดิจิทัล วอลเล็ต’ หนึ่งหมื่นบาทให้เร็ว ด้าน ‘สินธุไพร’ คนน้อง สส.เมืองร้อยเกินชี้ปัญหาการเมือง-ปากท้องต้องแก้ควบคู่กัน
เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โพลมติชน x เดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร เริ่มเปิดโหวตเมื่อวันที่ 1-31 ตุลาคม โดยกองบรรณาธิการในเครือมติชนและเดลินิวส์ ได้ประมวลชุดคำถาม รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร? แล้วนำมาเปิดให้ประชาชนโหวต ผ่านทางคิวอาร์โค้ดที่อยู่ในสื่อทั้ง 2 เครือทั้งหนังสือพิมพ์ 4 เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก, เอ็กซ์ (ทวิตตอร์), ยูทูบ, อินสตาแกรม และติ๊กต็อก
สำหรับคำถามมี 2 หัวข้อใหญ่คือ 1. เร่งแก้ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม ประกอบด้วย 1.1 แก้รัฐธรรมนูญ, 1.2 ปฏิรูปกองทัพ, 1.3 กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น, 1.4 ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม, 1.5 รัฐสวัสดิการ และ 1.6 ปัญหาอื่นๆ
2.เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ประกอบด้วย 2.1 แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท, 2.2 “แก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือน-หนี้สาธารณะ, 2.3 แก้ปัญหาการเกษตร, 2.4 เพิ่มค่าแรงขั้นต่ำและเงินเดือนปริญญาตรี, 2.5 ลดค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าน้ำมัน และ 2.6 ปัญหาอื่นๆ
หลังจากประชาชนโหวตโพลจนครบกำหนดถึงวันที่ 31 ต.ค.แล้ว ทั้งเครือมติชนและเดลินิวส์จะมีกิจกรรมเจาะลึกเรื่องโพลของมติชน-เดลินิวส์ ในเดือนพ.ย.โดยเชิญ นักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญการเมืองมาร่วมวิเคราะห์ผลด้วย
วันเดียวกัน พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ นักชกฮีโร่เหรียญทอง โอลิมปิกเกมส์ 2000 ที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ปัจจุบันนอกจากรับราชการเป็นตำรวจ ตำแหน่งรองผกก.ฝอ.บก.ภ.อุตรดิตถ์ และหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมมวยสากลหญิงทีมชาติไทยอีกด้วย ซึ่งตอนนี้คุมทีมนักชกสาวไทย ไปสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน และผลงานก็ถือว่ายอดเยี่ยมเอามาๆ พากำปั้นสาวไทย พิชิตเหรียญรางวัลให้กับนักกีฬาไทย พร้อมหยิบโควตาไปโอลิมปิกเกมส์ 2024 ได้หลายคน
แม้จะปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติอยู่ที่เมือง หางโจว แต่ “เจ้าศรี” พ.ต.ท.วิจารณ์ ก็สนใจร่วมทำโพลในครั้งนี้ โดยส่งตรงมาจากเมืองจีนโดยตรงด้วย พ.ต.ท.วิจารณ์เปิดใจว่า ถือเป็นการสำรวจความคิดเห็นที่ดี เป็นการเปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนคนไทย ได้ร่วมเสนอทางเลือกและสะท้อนความต้องการของพวกเขาไปยังรัฐบาลชุดใหม่โดยตรง “ผมคิดว่ากิจกรรมครั้งนี้เป็นเรื่องที่ดี เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยมากๆ เลยครับ”
ด้านนายภานุเดช เกิดมะลิ ประธานมูลนิธิสืบ นาคะเสถียร เผยว่า ขอบคุณทางมติชนและเดลินิวส์ที่ให้ร่วมโหวตผ่านออนไลน์ในเรื่องการแก้ปัญหา ระหว่างเร่งแก้ไขปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม และเร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง ว่าอะไรที่ต้องควรแก้ปัญหาก่อนกัน ตนมองว่าประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ปัญหาคือ การแก้ปัญหาการเมือง และการปฏิรูปโครงสร้างทางสังคม เพราะมองว่ากลไกในการขับเคลื่อน ทั้งความเป็นอยู่ของประชาชนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ กลไกเรื่องการเมืองมีความสำคัญ เพราะฉะนั้นเราควรเร่งปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ให้มีความสอดคล้องกันสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการกระจาย อำนาจ ให้บทบาทท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมกับการบริหารจัดการท้องถิ่นของตัวเองเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“สำหรับการโหวตในครั้งนี้อยากเชิญชวนคนที่มีความสนใจ หรือประชาชนทั่วไปสามารถมาร่วมโหวตออนไลน์ ง่ายๆ เพียงคลิกเข้าไปโหวตโพลมติชนxเดลินิวส์ เราก็สามารถเข้าไปลงรายละเอียดได้ ไม่ยุ่งยาก อยากขอเรียนเชิญทุกคนมาเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ด้วยกัน” นายภานุเดชกล่าว
น.ส.ชญาภา สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการโหวตโพลมติชนxเดลินิวส์ ร่วมกันทำโพลสอบถามความเห็นประชาชน ว่า “อยากให้รัฐบาลเศรษฐาแก้ปัญหาอะไร ระหว่างปัญหาการเมือง หรือ ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง” ว่าการแก้ไขปัญหาทั้งการเมืองและปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง สามารถทำควบคู่ไปทั้ง 2 อย่างได้ เพราะทั้ง 2 ปัญหามีความจำเป็นที่เกี่ยวเนื่องซึ่งกันและกัน โดยการเมืองเป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจได้ และเศรษฐกิจก็สามารถเป็นตัวชี้นำทางการเมืองได้ด้วยเช่นกัน ทางการเมืองมีเสถียรภาพก็สามารถแก้ปัญหาปากท้องพี่น้องประชาชนได้อย่างตรงจุดด้วยเช่นกัน
“เบียร์ขอฝากพี่น้องประชาชนให้มาร่วมทำโพลของ “โพลมติชนxเดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร?” เพื่อสะท้อนและส่งเสียงของท่านไปยังรัฐบาลด้วยกัน” น.ส.ชญาภากล่าว
ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการโหวตโพล มติชนxเดลินิวส์ ร่วมกันทำโพลสอบถามความเห็นประชาชน “อยากให้รัฐบาลเศรษฐาแก้ปัญหาอะไร ระหว่างปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม หรือปัญหาเศรษฐกิจ- ปากท้อง” ว่า ส่วนตัวมองว่า ปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม หรือปัญหาเศรษฐกิจ-ปากท้อง มีความสำคัญทั้งคู่ ต้องทำควบคู่กันไป
นายชัชชาติกล่าวต่อว่า โดยรัฐบาลมีงบประมาณ จึงควรแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ส่วนสภาผู้แทนราษฎร ทำเรื่องการเมืองและปฏิรูปโครงสร้างสังคมโครงสร้าง เพราะต้องเปลี่ยนกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่างๆ
“อย่างไรก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก จึงขอเชิญชวนให้ประชาชน มาร่วมกันโหวตโพล มติชนxเดลินิวส์ ให้มากๆ เพราะจะได้เป็นแนวทางให้รัฐบาลว่าควรทำอะไรก่อน และสุดท้ายจะได้ถามประชาชนจริงๆ ว่าต้องการอะไร” นายชัชชาติกล่าว
ชวนโหวต – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เชิญชวนโหวตโพล มติชนx เดลินิวส์ สอบถามความเห็นประชาชน ‘อยากให้รัฐบาลเศรษฐา แก้ปัญหาอะไร ระหว่างปัญหาการเมือง-ปฏิรูปโครงสร้างสังคม หรือเศรษฐกิจ-ปากท้อง’ เมื่อวันที่ 6 ต.ค.
สำหรับกิจกรรมการทำ “โพลมติชนxเดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร?” ครั้งนี้ เป็นการโหวตผ่านช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของสื่อเครือมติชนและเดลินิวส์ โดยเปิดโหวตเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ไปจนถึงวันที่ 31 ต.ค.
นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนนทบุรี จ.นนทบุรี กล่าวว่า อยากเสนอให้รัฐบาลชุดปัจจุบันส่งเสริมการ กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จะเห็นได้ว่าจากคำสั่งของคสช.ที่ 8/2560 รวบอำนาจการบริหารงานบุคคลไปไว้ที่ส่วนกลาง เป็นปัญหาให้กับท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง ทำให้การบริหารงานของท้องถิ่นล่าช้า ทราบว่าทางพรรคเพื่อไทย กำลังจะนำเรื่องนี้เข้าสภาเพื่อยกเลิกคำสั่งนี้
นายสมนึกกล่าวว่า ส่วนเรื่องของปากท้องอยากให้รัฐบาลส่งเสริมด้านการเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร โดยอยากเสนอให้นำเอาสินค้าเกษตรไปแลกซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อความมั่นคงของชาติ และเห็นด้วยที่การทำโพลของมติชนxเดลินิวส์ในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถสะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาล ได้เห็นความต้องการของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง หวังว่าเมื่อทำโพลแล้ว รัฐบาลจะนำไปแก้ไข
ส่วนนายณัฐพล เหลืองวงศ์ไพศาล ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จ.อุดรธานี จ.เลย จ.หนองบัวลำภู จ.หนองคาย และจ.บึงกาฬ กล่าวว่า จะขอมองเรื่องสิ่งที่อยากให้รัฐบาลแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจในภาคตะวันออก เฉียงเหนือ เป็นภูมิภาคที่ไกลจากจุดศูนย์กลาง โดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคในภาคอีสานยังไม่เพียงพอ ภาครัฐต้องหันมามองและทำให้เกิดความเท่าเทียมกัน ต่อมาเป็นเรื่องของค่าแรงขั้นต่ำกับประสิทธิภาพการทำงานของแรงงานที่ควรสอดคล้องกัน
“อีก 2 เรื่อง อยากให้รัฐบาลขับเคลื่อนงบประมาณแผ่นดินออกมาใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้น ทำอย่างไรให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่กลุ่มรากหญ้า หรือในส่วนกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยหรือเอสเอ็มอี เกิดการหมุนเวียนในชุมชน และสุดท้ายเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนธุรกิจเอสเอ็มอีให้มีความแข็งแกร่ง เป็นการเข้าประคับประคองให้ธุรกิจรายย่อยยืนอยู่ได้” นายณัฐพลระบุ
นายยชญ์สุธา วิชัยธนพัฒน์ ประธานหอการค้าจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า หากมุ่งจะสะท้อนปัญหาไปรัฐบาลเร่งแก้ไขก่อนก็เป็นเรื่องของปากท้อง ที่ผ่านมาการค้าขายไม่คล่องตัว ภาคการเกษตรในเพชรบูรณ์ยังค้าขายแบบเดิมๆ ไม่มีการแปรรูปสินค้า จึงอยากเสนอให้รัฐบาลเศรษฐาผลักดันการสร้างมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร จะทำให้ยอดขายมากกว่าเดิม เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นใช้จ่ายในครอบครัว เท่ากับช่วยเพิ่มจีดีพีในครอบครัว
“ยกตัวอย่างเพชรบูรณ์ อาจจะพัฒนากาแฟส่งขายไปทั่วโลก ผลักดันให้เป็นสินค้ามูลค่าสูงยิ่งขึ้น ปัญหาตรงนี้ก็อาจจะเบาบางลงไป ส่วนการที่รัฐบาลไปลดค่าพลังงาน ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน รัฐบาลก็ต้องนำเงินไปอุดหนุนให้กับกองทุนน้ำมันหรือจ่ายหนี้ให้การไฟฟ้า ไม่เกิดผลดีในระยะยาว” นายยชญ์สุธา กล่าวและว่า ส่วนที่รัฐบาลจะใช้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตนั้น ขอสนับสนุนและเร่งทำให้เร็วเป็นประโยชน์กับประชาชนในท้องถิ่นอย่างมาก เนื่องจากร้านค้ามีโอกาสจะรับลูกค้าได้ในระยะ 4 กิโลเมตร จะเป็นการบังคับให้มีการกระจายเม็ดเงินในท้องถิ่น ตรงนี้จะเป็นยากระตุ้นวัคซีนเข็มแรกให้กับเราได้ตื่นตัว ทำให้เกิดการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว
ขณะที่นายโสภณ ศรีสุวรรณ เจ้าของร้าน อาหารดิสคัฟเวอรี คาเฟ่ จ.พังงา หนึ่งใน ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากช่วงโควิด ทำให้กิจการต้องปิดไปกว่า 3 ปี กล่าวว่า อยากให้รัฐบาลแก้ในเรื่องเศรษฐกิจ ที่ย่านเขาหลัก ในพื้นที่ได้รับผลกระทบช่วงโควิด อยากจะให้เริ่มต้นช่วยเหลือผู้ประกอบการที่พอจะพยุงธุรกิจได้อีกครั้ง โดยเสนอรัฐบาลช่วยประสานงานสถาบันการเงิน ปล่อยสินเชื่อช่วยส่งเสริมสภาพคล่อง จะเป็นรูปแบบปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ หรือว่าพักหนี้เงินกู้อย่างจริงจัง และอยากจะให้นายกฯ ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง จ.พังงา มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย และที่สำคัญปัญหาเรื่องอาชญากรรมต่างๆ ในพังงามีน้อยมากปลอดภัยจริงๆ
นายสรรเสริญ จิรรัตนโสภณ นักธุกิจในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา เปิดเผยว่า อยากให้ นายกฯเศรษฐาแก้ปัญหาเรื่องปากท้องระดับรากหญ้าก่อนเป็นอันดับแรก ปากท้องเป็นเรื่องสำคัญอันดับ 1 ของประเทศไทยทั่วทุกภูมิภาค รวมทั้งการแก้ปัญหาในเรื่องของการเกษตรให้เกษตรกรยืนอยู่ได้ และเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียนไม่ว่าจะเป็นการค้าปลีกหรือภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยว เป็นเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่ประเทศ ถ้าธุรกิจฟื้น กลุ่มรากหญ้าก็จะฟื้นตามไปด้วย
“ส่วนรากหญ้าในส่วนของเมืองต่างๆ ที่มีหาบเร่ แผงลอย จะเกิดการใช้จ่ายหมุนเวียน มันสมบูรณ์มากกว่าที่เราจะไปแจกเงินดิจิทัลหรือว่าจะไปกระตุ้นแบบปลายทาง ต้องมองที่ต้นทางตรงนี้” นายสรรเสริญ กล่าว
ด้านนายอาร์ม วงศ์อำไพพิสิฐ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เสนอว่าควรแก้ปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องก่อน เพราะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศและแปลงเงินทุนของรัฐบาล (ภาษี) นำไปทำนโยบายด้านอื่นๆ ต่อไปได้ ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว แต่ยังไม่สามารถเพิ่มรายได้ได้เต็มที่
วันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เชิญชวนร่วมโหวตโพล ออนไลน์ “โพลมติชนxเดลินิวส์ : รัฐบาลเศรษฐาควรแก้ปัญหาอะไร?” ว่า โดยเห็น ว่าเรื่องเร่งด่วนคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ- ปากท้องของประชาชน รวมถึงหนี้สินครัวเรือน หนี้สาธารณะ แก้ปัญหาด้านการเกษตร
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า จึงอยากขอเชิญประชาชนร่วมเข้ามาทำโพล เดลินิวส์xมติชน เพื่อส่งข้อความที่เป็นประโยชน์ เป็นความต้องการของพี่น้องประชาชน ส่งต่อมายังรัฐบาล ในเรื่องการแก้ปัญหาต่างๆ เรื่อง เศรษฐกิจ สังคม และปัญหาปากท้อง เพื่อที่รัฐบาลจะได้รับฟังและดำเนินการแก้ไข และเสนอต่อความต้องการของประชาชนต่อไป
