“หลังจากสามีเสียชีวิต ลูกๆ ยังเพิ่งเข้าเรียน ตอนนั้นเองที่ทางมูลนิธิรักษ์ไทยและบริษัทเชฟรอนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือให้เราทำขนมเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวต่อ จนตอนนี้ลูกคนสุดท้องกำลังจะจบแล้ว ในฐานะแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีลูก 5 คนจึงภูมิใจมากๆ ที่ส่งลูกทุกคนเรียนจบด้วยน้ำพักน้ำแรงเรา”
น.ส.แวลีเมาะ สาแล หนึ่งในสตรีกลุ่ม เจาะหู บ้านปาหนัน อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ที่ได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์อาชีพจากโครงการเชฟรอน-ทุนเพื่อชีวิตของบริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด ร่วมกับมูลนิธิรักษ์ไทย กล่าวด้วยน้ำเสียง ภาคภูมิใจกับการลุกขึ้นมาเป็น “เสาหลัก” ของครอบครัวในวันที่ชีวิตต้องนับหนึ่งใหม่จากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
เพราะ “โอกาส” คือทุนที่สานต่อ “ชีวิต” บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด สนับสนุนงบประมาณโครงการ “เชฟรอน-ทุนเพื่อชีวิต” ตั้งแต่ปี พ.ศ.2558 ให้มูลนิธิรักษ์ไทยที่ทำงานด้านการ ส่งเสริมอาชีพผู้หญิงมากว่า 12 ปี ดำเนินกิจกรรมพัฒนาอาชีพและสนับสนุนอุปกรณ์อาชีพให้สตรีกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้หญิงมีทางเลือกในชีวิตทั้งจากการสร้างอาชีพใหม่และพัฒนาอาชีพเดิมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น พร้อมต่อยอดสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจและฐานที่มั่นของครอบครัว
น.ส.แวลีเมาะกล่าวต่อว่า “จากที่เริ่มทำขนมเจาะหูจนถึงตอนนี้ผ่านมา 25 ปีแล้ว จุดเริ่มต้นมาจากที่เราอยากทำอาชีพค้าขาย จึงเรียนรู้และคิดค้นสูตรขนมเจาะหูแบบโบราณเพื่อนำไปขาย พอมีกำไรน้อยๆ ก็เริ่มซื้อเตาอบ แต่ต่อมาหลังจากสามีเสียชีวิต เราต้องรับภาระหน้าที่หารายได้เพื่อประคองครอบครัวให้ลูกๆ ทุกคนได้เรียนหนังสือ ได้รู้จักมูลนิธิรักษ์ไทยและ เชฟรอน ทางมูลนิธิจึงสนับสนุนเครื่องทองพับมาให้ หลังจากทำต่อได้ปีกว่าและมีเตาอบเครื่องใหม่ ทำให้มีรายได้มากขึ้นและส่งลูกทั้ง 5 คนเรียนจบ ภูมิใจมากที่ความตั้งใจของเราเป็นจริง อยากให้คนอื่นๆ มีโอกาสแบบนี้เหมือนกัน”
น.ส.เพ็ญนภา คงดี เจ้าหน้าที่มูลนิธิรักษ์ไทย สำนักงานปัตตานี กล่าวว่าการทำงานของเราไม่ใช่เข้าไปช่วยเท่านั้น แต่ต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยและดูความพร้อมรวมถึงความต้องการของแต่ละกลุ่ม พร้อมทั้งช่วยเสริมทักษะอาชีพตามจุดแข็งของกลุ่ม เช่น หาครูมาสอนเย็บผ้า หลังจากทำโครงการมาระยะหนึ่งกลุ่มผู้หญิงเหล่านี้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีเงินเก็บ มีรายได้ส่งให้ครอบครัวเรียนหนังสือ รวมถึงมีเพื่อนฝูงคอยแลกเปลี่ยนความรู้ พอรู้สึกว่าตนเองดีขึ้นเขาก็เข้าใจคนที่ต้องการความช่วยเหลือและยื่นมือไปช่วยคนอื่นต่อ
ด้าน น.ส.กิติมา มะสูละ หนึ่งในสตรีกลุ่มผ้าบาติกบ้านกูยิ อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส บอกเล่าว่า “ชอบการทำผ้าบาติกอยู่แล้ว ช่วงแรกเริ่มจากทำให้ครอบครัวใส่ พอมีคนสนใจมากขึ้นจึงตั้งกลุ่มกับเพื่อนและรวบรวมคนที่สนใจอยากทำเป็นอาชีพ ตอนแรกใช้จักรเย็บผ้าแบบถีบ พอทางโครงการมาสนับสนุนจักรอุตสาหกรรมจึงแปรรูปสินค้าได้หลากหลาย ทั้งกระเป๋า ซองใส่โทรศัพท์ ผ้าพันคอ ทำให้ผลิตสินค้าได้เร็วและมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์แปรมาเป็นผลิตภัณฑ์จริง จนตอนนี้กลุ่มผ้าบาติกบ้านกูยิพัฒนาจนชนะการประกวดในนามกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดและกำลังจะประกวดในระดับประเทศต่อไป”
นายปฏิเวธ บุณยะผลึก รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด กล่าวว่าโครงการเชฟรอน-ทุนเพื่อชีวิต ดำเนินงานต่อเนื่องถึง 9 ปี สนับสนุนอุปกรณ์ให้กลุ่มอาชีพรวม 116 กลุ่ม มีผู้รับประโยชน์โดยตรงมากกว่า 1,500 คน อีกทั้งโดยอ้อมสำหรับสมาชิกในครอบครัวอีกกว่า 20,000 คน รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้สร้างโอกาสให้ผู้หญิงที่ต้องรับผิดชอบรายจ่ายในครอบครัวมีอาชีพเป็นของตัวเองและมีรายได้เพิ่ม นับเป็นตัวอย่างความสำเร็จผ่านศักยภาพพลังคนอย่างแท้จริง
