แก้รัฐธรรมนูญก็เหมือนเรือดำน้ำ พรรคเพื่อไทยไม่ได้ แข็งขันเหมือนสมัยเป็นฝ่ายค้าน หรือตอนหาเสียง ยิ่งกว่านั้น กระบวนการ ทิศทาง การทำประชามติ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ไม่มีความชัดเจน เหมือนดำน้ำไปเรื่อยๆ ให้ได้ชื่อว่าทำแล้ว

สุดท้ายอาจแก้อะไรไม่ได้เลย

iLaw ล่าชื่อประชาชนได้ 2 แสนกว่าคนในไม่กี่วัน เสนอทำประชามติแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดย สสร.จากการเลือกตั้งทั้งหมด นั่นเป็นเจตนารมณ์ประชาชนตั้งแต่ยุคประยุทธ์ พรรคก้าวไกลรับไปเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง

พรรคเพื่อไทยหาเสียงไหม พูดเหมือนกันแต่คลุมเครือ “เราจะให้มี สสร.ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชน เป็นวาระแห่งชาติ” เศรษฐา ทวีสิน 19 เม.ย. 66

ข้อแตกต่างมี 2 ประเด็น เพื่อไทยไม่แก้หมวด 1 หมวด 2 กับไม่เอา สสร.จากเลือกตั้งทั้งหมด

แต่ตอนหาเสียง เพื่อไทยไม่ได้ประกาศนโยบายว่า “เราจะแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับยกเว้นหมวด 1-2” หรือ “เราจะมี สสร.จากแต่งตั้งด้วย” กลับไปใช้คำใหญ่ “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” แต่เอาเข้าจริงคลุมเครือพับกระดาษครึ่งใบ

ทำให้คนจำนวนหนึ่งเข้าใจว่า เพื่อไทยมีนโยบายตรงกับ ก้าวไกล แก้รัฐธรรมนูญ ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ฯลฯ แต่คนจำนวนมากรู้ทัน

หลังพรรคร่วมรัฐบาลคว่ำญัตติทำประชามติของก้าวไกล ก็เผยไต๋ โดยพรรคภูมิใจไทย ว่าไม่เห็นด้วยจะให้ สสร.มาจากเลือกตั้งทั้งหมด โดยอ้างกลุ่มอาชีพอ้างคนหลากหลาย

เป็นไปตามที่คาดไว้ แก้รัฐธรรมนูญแบบรัฐบาลเพื่อไทยเดี๋ยวก็ตั้ง สสร.ตามโควตา สส. ตามโควตา สว. ตั้งเนติบริกรพันธุ์ใหม่ ตั้งนักวิชาการสายเพื่อไทย

คำถามสำคัญจะแก้อะไร รัฐธรรมนูญ 2550-2560 เป็นผลพวง รัฐประหาร 2549,2557 ขยายอำนาจตุลาการภิวัตน์ อยู่เหนืออำนาจปวงชนชาวไทย อ้างคนดีย์ อ้างคุณสมบัติ อ้างจริยธรรม ยุบพรรคตัดสิทธิ ทำลายอำนาจเลือกตั้ง

พูดตรงไปตรงมา การแก้ไขรัฐธรรมนูญคือล้างอำนาจเครือข่าย รัฐประหาร ซึ่งต้องใช้ทั้งความหาญกล้าและประชาชนหนุนหลัง เช่นถ้าเป็นรัฐบาล 8 พรรคก็จะมีพลังก้าวไกล+เพื่อไทย 26 ล้านเสียง

แต่เมื่อเพื่อไทยข้ามขั้วเป็นรัฐบาลสวามิภักดิ์ โอกาสแก้ไขรัฐธรรมนูญ “ฉบับประชาชน” ก็จบลงแล้ว

บางคนยังหลงคิดว่าพรรคเพื่อไทยเคยถูกกระทำ ต้องการแก้อำนาจองค์กรอิสระ ยุบพรรคตัดสิทธิ แต่ในสถานะปัจจุบัน เพื่อไทย ด้อยความชอบธรรม ไม่มีพลังรบราองค์กรอิสระ ขณะเดียวกันก็ไม่เดือดร้อน ก้าวไกลต่างหากอาจถูกยุบพรรคตัดสิทธิ

พรรคร่วมรัฐบาลก็ไม่เดือดร้อน เลือกตั้งมาแล้ว 5 เดือน กกต.เงียบกริบ ที่ว่าซื้อเสียงกระหน่ำบางเขต 100 ล้าน เป็นแค่ข่าวลือที่อ้างว่าก้าวไกลชนะใสสะอาดไม่ใช้เงินซื้อ ปัดโธ่ ทุกพรรคก็มาจากเลือกตั้งเหมือนกันหมด

เพื่อไทยจึงไม่มีความจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ท้ายที่สุดอาจแก้ได้ประเด็นเดียว คือระบบเลือกตั้ง ให้บัตรพรรคบัตร ส.ส.เบอร์เดียวกันทั้งประเทศ ซึ่งไม่ต้องทำประชามติ พรุ่งนี้ก็แก้ได้

นี่คือวิถีการเมืองเพื่อไทย ที่อ้างว่าวิถีก้าวไกล Extreme มุ่งหักโค่นแล้วจะโดนปราบ ไม่ได้อะไรเลย เข้าไปประนีประนอม เพื่อต่อรองดีกว่า กำขี้ดีกว่ากำตด

แต่ก็ไม่สามารถบอกประชาชนว่าจะต่อรองอะไรได้บ้าง นอกจากบอกให้เชื่อมั่นเถอะน่า “พี่มีประสบการณ์” ขณะที่เสียความชอบธรรม เกือบหมด

นี่เช่นเดียวกับเรือดำน้ำ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประกาศปฏิบัติการ Saving Private Sutin ฟังเหมือนเย้ยหยันแต่ ทุกคนเห็นใจ สุทินไม่ได้ผิดอะไร มารับเผือกร้อน แต่ไม่รู้เพราะเกรงใจจีน หรือเกรงใจทหาร หรือเกรงใจรัฐบาลที่แล้ว จึงเสียงอ่อนราวกับไม่มีอำนาจตัดสินใจ ชะลอซื้อเรือดำน้ำแต่จะไปแลกเรือฟริเกต

ใครผิดสัญญา จีนไม่สามารถทำตามข้อตกลงขายเรือดำน้ำเครื่องยนต์เยอรมัน ก็ต้องคืนเงินพร้อมค่าเสียหาย ถ้าจะเสนอ ขายอาวุธอื่นก็ลดแลกแจกแถม ไม่ใช่บีบขาย แบบนั้นก็เป็นพี่ใหญ่อันธพาล

อันที่จริงยังไม่รู้หรอกจีนจะเอาอย่างไร แต่การที่ Private Sutin บอกว่า “จีนไม่ได้ผิดสัญญา แต่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง” ทำให้ประชาชนหัวร่อกลิ้ง

สุทินไม่ได้ผิดอะไรเลย แต่การตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว พึ่งประยุทธ์ พ่วงประวิตร ทำให้น้ำท่วมปาก

วันนี้สุทิน จิราพร ไม่สามารถพูดเรื่องเหมืองอัครา ที่เคยกล่าวหา ประยุทธ์ทำให้ประเทศเสียหายแสนล้าน ที่เคยประกาศจะเอาประยุทธ์ออกจากบ้านพักในค่ายทหาร วันนี้ประยุทธ์พาภริยาบินไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสบายใจ

แตะประยุทธ์แค่นิดๆ หน่อยๆ ก็ไม่ได้ รัฐบาลเพื่อไทย จะเอาอะไรมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ล้างอำนาจเครือข่ายอนุรักษ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน