เป็นตัวพีกอีกตัวในละครฮอต “พรหมลิขิต” ทางช่อง 3 สำหรับ “แม่กลิ่น” ที่ถ่ายทอดบทบาทโดยนางเอกมากฝีมือ ‘น้ำตาล’ พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ที่จะต้องพลิกร้ายครั้งแรกมาสาดใส่สาว ‘เบลล่า ราณี’ ในบท ‘พุดตาน’ ไม่ยั้ง

ซึ่งความร้ายในเรื่องเจ้าตัวบอกมีเหตุผล และการร่วมงานกับสาวเบลล่ายอมรับว่าเกร็ง เพราะด้วยตัวเองเป็นแฟนคลับของนางเอกสาว

แม่กลิ่น ทำไมร้ายจังเลย?

น้ำตาล – “เป็นร้ายแบบมีเหตุผล เรื่องนี้พลิกบทบาทมารับบทค่อนข้างร้ายเป็นครั้งแรก แต่ด้วยพื้นฐานตัวละครเขากำพร้าพ่อแม่ มียายเลี้ยงมาตั้งแต่เด็ก ยายดูแลเอาใจใส่ ทำให้ติดนิสัยเอาแต่ใจ และด้วยความที่เรามีบ่าว เราเป็นเบอร์หนึ่ง บ่าวก็เคารพแค่ยายกับเรา อยู่ๆ มาวันนึงมี ลูกเทวดาเข้ามาอยู่ที่บ้าน แล้วเราไม่มีสิทธิ์ไปสู้อะไรเขาได้เลย เพราะเขาเป็นถึง ลูกเทวดา และในความที่เขาเป็นลูกเทวดา ในความรู้สึกเราที่มีต่อเขา มันมีความเกลียดและความกลัวแฝงอยู่ บวกกับความน้อยใจยาย ที่ดูยายรักเขามากกว่าเรา ทำให้ความเกลียดกลายเป็นความแค้น เราเลยพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้เขาออกไปจากชีวิต ตัวละครตัวนี้กับพุดตานเขามีเส้นเรื่องที่ผูกพันกันมานาน จนทำให้เกิดเป็นความโกรธเกลียด และการแก้แค้นเอาคืน”

เป็นอย่างไรบ้างกับบทแม่กลิ่น?

น้ำตาล – “สนุกค่ะ ตอนแรกที่พี่หน่อง (อรุโณชา) บอกว่าอยากให้เรามาสร้างสีสันในเรื่องหน่อย ตัวละครประมาณนี้นะ แค่ฟังเราสนใจ เพราะตาลเอง อยากเล่นอะไรแบบนี้มานานแล้ว เพราะที่ผ่านมาเราเล่นแต่ตัวละครดีๆ มาตลอด พอมาอันนี้เราก็ต้องมาทำการบ้านและหาเหตุผลว่า สิ่งที่เราทำ ในสายตาคนอื่นดูผิด ดูน่าตบ สำหรับคนอื่นคิดผิดหมด แต่เราคิดถูกนะในการที่ร้าย อยู่ๆ มีผู้หญิงคนหนึ่งโผล่มาอยู่แถวเรือนเรา แล้วยายบอกว่าเป็น ลูกเทวดาพามาอยู่ที่บ้าน เลี้ยงดูดีทุกอย่าง เรารู้สึกไม่ยุติธรรม ยายงมงาย อีกมุมนึงเราก็ไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงเกลียดคนคนนี้มากๆ อยากให้ออกจากชีวิตยายและชีวิตเราให้ได้ แล้วมันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ”








Advertisement

“ตาลชอบมากที่มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่าไม่เคยลุ้นให้ตัวละครตบกันเท่าเรื่องนี้มาก่อน มันเหมือนจะตบก็ไม่ตบกันสักที ตัวแม่กลิ่นเป็นตัวละครที่ใจกากแต่ปากเก่งมาก จะไปตบเขาแต่แค่เขามองมา เราเห็นสายตาของเขาน่ากลัวสำหรับ เรา มันเป็นสายตาที่มีเรื่องราวกันมาก่อน เรายิ่งกลัว ดังนั้นเราสู้ต่อหน้าไม่ได้ สิ่งที่เราทำได้คือทำลายของรักของเขา ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ แต่สุดท้ายเราก็กลับมาโดนเอง แล้วเวรกรรมกลับมาเร็วมาก”

“มันก็ยิ่งให้เราแค้นไปอีก ไม่ใช่ว่าพอถูกทำโทษแล้วมันจะจบ แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกว่าถ้าเราทำวิธีนี้ไม่ได้ ฉันจะทำให้มากกว่านี้ มันทวีความรุนแรงมากขึ้น จนไม่ใช่แค่พุดตานที่ทนไม่ไหว สุดท้ายแล้วยายเราก็เริ่มทนไม่ไหวเหมือนกัน”

เล่นกับเบลล่า เป็นอย่างไรบ้าง?

น้ำตาล – “เกร็งมาก เพราะตาลเป็นแฟนคลับพี่เบลล่าอยู่แล้ว พอรู้ว่าในเรื่องต้องมาสู้กันทั้งเรื่อง แล้วตัวละครตัวนี้มีความซับซ้อนค่อนข้างเยอะ พอพี่หน่องส่งมา เรารับเลย และโชคดีที่ พี่หน่องเห็นความสำคัญในคาแร็กเตอร์ของนักแสดง เลยส่งเราไป เวิร์กช็อปกันก่อน 2-3 ครั้ง ได้เวิร์กช็อปกับ พี่เบลล่า ทำให้รู้ทิศทางตัวละคร รู้ว่าเราต้องเล่นแบบไหน ให้คนดูรู้ว่า เขาไม่ได้โกรธเกลียดกันอย่างเดียว แต่มีอะไรบางอย่างที่สู้กัน แล้วมันต้องมีความกลัว ความน้อยใจยาย”

“แล้วตอนนั้นตาลถ่ายละคร 3 เรื่องพร้อมกัน เป็นดราม่าทั้ง 3 เรื่อง แล้วแม่กลิ่นมีปมหลายอย่าง เป็นพีเรียดพูดผิดไม่ได้ อีกเรื่องหนึ่งเป็นนักร้องในไนต์คลับแม่โดนข่มขืน ชีวิตรันทด บ้านแตกสาแหรกขาด อีกเรื่องเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว แล้วเราไม่เคยมีลูกมาก่อน ช่วงนั้นตาลดิ่งไปเลย ชีวิตไม่ได้เป็นน้ำตาลเลย เพราะวันหยุดเราต้องทำการบ้านอยู่กับตัวละครตลอด หนักมาก โหดสุดๆ เพราะพีเรียดแล้ว 2 เรื่อง ยิ่ง พรหมลิขิต รู้สึกว่าทุกอย่างต้องทำออกมาให้ดี อยากให้เห็นว่าตัวละครนี้มีปม มีความหลายหลากในอารมณ์”

กระแสที่เข้ามา?

น้ำตาล – “กับความสวยที่ทุกคนชมหนูจะน้อมรับไว้ทั้งหมด ขอบพระคุณค่ะ (หัวเราะ) แล้วมีคอมเมนต์หนึ่งหนูชอบมาก เขาบอกว่า แม่กลิ่น ออกมาอยู่เฉยๆ ได้ไหม ไม่ต้องพูด เรื่องความสวยคนจะชมเยอะมาก เขาอาจจะไม่เคยเห็นตาลใส่ชุดไทยจัดเต็มขนาดนี้ แต่เดี๋ยวจะมีความจัดเต็มขึ้นไปเรื่อยๆ ตอนนี้เปิดตัว หมู่สง ที่พี่ป๊อป ฐากูรแสดงแล้ว พอหมู่สงเริ่มมาจีบเรา เขาเป็นผู้ชายสายเปย์ เสื้อผ้า เครื่องประดับ หน้าผม เราจะจัดเต็มขึ้นเรื่อยๆ เพราะเขาพยายามเอาใจเราทุกทาง เพื่อให้เราเป็นเมียคนที่ 21 ของเขา นักแสดงผู้ชายเรื่องนี้อิจฉาพี่ป๊อปมาก ในเรื่องเขาตีบทหมู่สงเป็นหนุ่มเจ้าชู้ มีตังค์ อยู่หอกลองแล้ว แต่ยังปล่อยเงินกู้ด้วย ยายเราไม่ชอบเขา เพราะมาปล่อยเงินกู้ทับไลน์กัน แล้วชื่อเสียงความมีเมียเยอะ เขาเลยไม่อยากให้หลานเข้าไปอยู่ในครอบครัวนั้น”

“แรกๆ เราหันไปหาหมู่สงเพราะต้องการประชดยาย แต่หลังจากนั้นเราก็เห็นว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างที่คนพูดกัน ที่เขามีเมียเยอะ ไม่ใช่เพราะเจ้าชู้อย่างเดียว แต่เขาปล่อยเงินกู้ บางทีก็มีคนเอาลูกเอาเมียมาขัดดอก บางทีก็เป็นเมียที่หลวงให้มา เลยทำให้มีเมียเยอะ แต่ถึงเขามีเมียเยอะ เขาก็ดูแลเมียดีทุกคน เราเลยเห็นความดีของเขา แล้วเขามาจีบบ้างด่าบ้าง แล้วไม่มีใครด่า แม่กลิ่นอย่างนี้ มีคนที่กล้าด่าเราก็มีแค่พุดตาน ยายอาจจะมีบ้าง แต่ผู้ชายจะมีแค่หมู่สงที่ตามใจเรามาตลอด จนวันนึงเขาเริ่มด่าเรา เตือนสติเรา เลยรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้มีเสน่ห์ ดึงสติเราได้ (หัวเราะ)”

“สนุกค่ะ คู่นี้เป็นสีสันอีกคู่ของละครเรื่องนี้ เพราะเส้นเรื่องของหมู่สงน่าสนใจ เวลาเราไปเรือนเขา ไปเจอเมียอีก 20 คน แล้วเมียอีก 20 คนก็รู้ว่าหมู่สงรักเรามาก เขาไม่อยากให้เราอยู่ในบ้าน ก็ทำทุกวิถีทางให้เราออกไป ซึ่งเราเป็นตัวจี๊ดอยู่แล้ว ก็ไม่ยอม สู้กันตาต่อตา ฟันต่อฟัน มีผู้ชายอยู่เบื้องหลังเรา ถือว่าเราชนะ (หัวเราะ) ดีใจมากที่ได้รับบทแม่กลิ่น เพราะเขาไม่ใช่ตัวละครแบนๆ ร้าย จะตบเขาอย่างเดียว เป็นตัวละครที่ค่อนข้างกลม มีที่มาที่ไป”

ตอนนี้มีละครเรื่องอะไรอยู่อีก?

น้ำตาล – “ตอนนี้ปิด พรหมลิขิต และ รักได้หรือ Young ไปแล้ว ที่กำลังถ่ายก็ มือปราบมหาอุตม์ เรื่องนี้สุดๆ บู๊หนักมาก เป็นเรื่องของคาถาอาคมด้วยเลยถ่ายนาน มีเรื่องเอฟเฟ็กต์เยอะ แล้ว โลเกชั่นก็อยู่ต่างจังหวัด”

แต่ละเรื่องไม่เบาเลย?

น้ำตาล – “โหดทุกเรื่อง เรื่องหน้าอยากได้แบบ มนต์รักออฟฟิศ มนต์รักห้างสรรพสินค้า เพราะโลเกชั่นที่ใกล้ที่สุดคือหนองแขม นอกนั้นไปถ่ายในถ้ำ ถ่ายน้ำตก หลังจากนี้อยากรับละครคอมเมดี้แล้ว ตอนนั้นตาลคิดว่าตัวเองชอบดราม่ามากๆ แต่ทีนี้จิตใจเราบางทีก็รับไม่ไหว กับซีนดราม่าเยอะๆ อย่าง พรหมลิขิต ไปถ่ายที เขาก็อัดเราทั้งวัน ต้องใช้อารมณ์เยอะมาก เป็นตัวละครที่พร้อมปะทะ”

ความรักเราเตรียมงานแต่งไปถึงไหนแล้ว?

น้ำตาล – “พอทุกคนโฟกัสมาที่เรื่องนี้ คนที่กดดันน่าจะอยู่ที่ตัวพี่ไผ่ (พาทิศ) ปีนี้เราผ่านเหตุการณ์สำคัญๆ ในชีวิตมา ค่อนข้างเยอะ พี่ไผ่เพิ่งเสียคุณพ่อไป โชคดีก่อนหน้านั้นพี่ไผ่รีบเคลียร์คิวละครเพื่อจะบวช ซึ่งตอนนั้นทุกคนคิดว่าบวชเพื่อมาแต่งงานหรือเปล่า เราก็ไม่สามารถพูดได้ แต่มันก็เป็นโอกาสที่ดี ทำให้สองครอบครัวได้มาเจอกันครั้งแรก คุณพ่อ คุณแม่ยังไม่เคยเจอทางบ้านพี่ไผ่เลย เจอแต่ พี่ไผ่ ท่านก็สบายใจ ครอบครัวพี่ไผ่น่ารักกับเรามาก ดูแลเราดีมากๆ เหมือนเราเป็นคนในครอบครัว จากที่คุณพ่อคุณแม่แอบหวงเรา เมื่อก่อนพูดถึงเรื่องแต่งงานเขาก็บอกอย่าเพิ่งพูด ยังเด็กอยู่ แต่ตอนนี้ผ่านแล้วเราก็สบายใจ เริ่มง่ายขึ้นแล้ว เมื่อก่อนเราไม่รู้ว่าจะเปิดยังไงดี”

คิดว่าอีกนานไหมกว่าจะแต่ง?

น้ำตาล – “อีก 2-3 ปี ที่ช้าเพราะโควิด ตอนนั้นเอาเงินก้อนลงทุนทำธุรกิจหลายอย่างเยอะ ตอนนี้พอโควิดไปก็เริ่มสตาร์ตหนึ่งใหม่ แล้วถ้าตาลแต่งงานคงอยากมีลูกเลย ตอนนี้ฝากไข่ไว้เรียบร้อยแล้ว”

มองหรือยังว่าอยากได้งานแต่ง แบบไหน?

น้ำตาล – “ใจหนูไม่อยากให้มีพิธีการเยอะ อยากให้เป็นแบบง่ายๆ ถ้าเป็นพิธีการจริงๆ ก็จัดแบบในครอบครัวให้จบไปเลย แล้วเพื่อนก็มาเจอกัน มาปาร์ตี้ เหมือนได้มารวมกลุ่มกัน แต่ใดๆ คือต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะยังไงค่ะ”

อนงค์ จันทร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน