ทำเนียบรัฐบาล – เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คำนึงถึงการยกระดับความเป็นอยู่ ของประชาชน โดยเฉพาะการมีที่อยู่อาศัยที่ดี ซึ่งล่าสุด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และการเคหะแห่งชาติ ได้เผยความคืบหน้าของโครงการบ้านเคหะสุขประชา ซึ่งได้เพิ่ม ทางเลือกให้แก่ผู้ต้องการอยู่อาศัยที่อยากมีบ้าน แต่ยังไม่มีความพร้อมในการซื้อ ผ่านการทำสัญญาเช่า ซึ่งพร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ในอัตราค่าเช่าเริ่มต้นเดือนละ 1,950 บาท พร้อมฝึกอบรมอาชีพให้ฟรี หรือสามารถจองแผงเช่าที่ตลาดสุขประชามาร์เก็ต ฉลองกรุง ฝั่งตรงข้ามโครงการได้

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.พม. ได้ย้ำถึงความสำคัญของโครงการบ้านเคหะสุขประชาว่า ภารกิจของการเคหะแห่งชาติไม่ใช่การสร้างบ้าน แต่เป็นการสร้างสังคม (Community) ที่เป็นรากฐานของการมีชีวิตที่ดี ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินโครงการนำร่องแล้ว จำนวน 2 โครงการ ได้แก่

1. โครงการบ้านเคหะสุขประชาร่มเกล้า จำนวน 270 หน่วย บริเวณ ถนนร่มเกล้า แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ อัตราเช่าเริ่มต้นที่ 2,400 – 3,900 บาทต่อเดือน มีพื้นที่ใช้สอย 30 ตารางเมตร ภายในโครงการจะมีศูนย์การค้าขนาดเล็ก (Community Mall) ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ได้สิทธิเช่าเข้าอยู่เต็มโครงการแล้ว

2. โครงการบ้านเคหะสุขประชาฉลองกรุง จำนวน 302 หน่วย บริเวณ ถนนร่วมพัฒนา 6 แขวงลำผักชี เขตหนองจอก กรุงเทพฯ อัตราเช่าเริ่มต้นที่ 1,950 – 3,750 บาทต่อเดือน (รวมค่าบริหารชุมชนแล้ว) และมีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 30 – 50 ตารางเมตร โดยภายในโครงการจะมีตลาดสุขประชามาร์เก็ต ฉลองกรุง ซึ่งผู้อยู่อาศัยสามารถเช่าแผงตลาดเพื่อการค้าขายได้ ทั้งนี้ มีผู้ได้สิทธิเช่าเข้าอยู่อาศัยคิดเป็นประมาณร้อยละ 60.93

นอกจากนี้ บริษัท เคหะสุขประชา จำกัด (มหาชน) ยังมีการจัดฝึกอบรมพัฒนาทักษะความรู้ให้กับผู้เช่า 1 คน ต่อบ้าน 1 หลัง ซึ่งจะเป็นการพัฒนาที่อยู่อาศัยควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชนและสร้างรายได้อย่างครบวงจร โดยได้จัดตั้งศูนย์พัฒนาเศรษฐกิจสุขประชา (DEET) ให้เป็นศูนย์กลางการพัฒนาทักษะความรู้ที่ผู้เข้ารับการฝึกอบรมจะได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญใน 6 กลุ่มอาชีพ ได้แก่ เกษตรอินทรีย์ ปศุสัตว์ อาชีพบริการ ตลาด อุตสาหกรรมขนาดเล็ก และศูนย์การค้าปลีก-ส่ง

ประชาชนที่สนใจสามารถเข้ามาเยี่ยมชมโครงการ ณ ที่ตั้งโครงการ ( Walk in) และทำสัญญาได้ทันที โดยต้องมีคุณสมบัติตามที่กำหนดคือ 1.ถือสัญชาติไทย 2. เป็นผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ โควิด-19 3.เป็นผู้ว่างงาน ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ผู้พิการ ผู้สูงอายุ 4.บรรลุนิติภาวะ และ 5.เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อเดือนต่อครัวเรือน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน