โรงเรียนผดุงนารี ตั้งอยู่เลขที่ 143 ถนนผดุงวิถี ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม เป็นสถานศึกษาที่เก่าแก่คู่เมืองมหาสารคามมาอย่างยาวนาน นับถึงปัจจุบัน มีอายุ 97 ปี

เริ่มต้นใน ปี พ.ศ.2449 พระพิทักษ์นรากร หรือ พระเจริญราชเดช (อุ่น ภวภูตานนท์ ณ มหาสารคาม) เจ้าเมืองมหาสารคามคนแรก จัดตั้งโรงเรียนขึ้นครั้งแรกในเมืองมหาสารคาม ที่วัดโพธิ์ศรีและวัดนาควิชัย ผู้เรียนจะเป็นนักเรียนชายล้วน

ส่วนการศึกษาของเด็กหญิงในสมัยนั้น จัดเรียนตามบ้านข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ คหบดี โดยรวบรวมบุตรข้าราชการผู้ใหญ่และบุตรคหบดีแล้วหาครูมาสอนให้ ดังนั้น การศึกษาของเด็กผู้หญิงจึงอยูในวงจำกัดและส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนเหมือนเด็กชาย วิชาที่เรียนส่วนมากเป็นวิชาการเรือนเป็นส่วนใหญ่และเรียนหนังสือพออ่านออกเขียนได้

จนถึงสมัยของพระประชากรบริรักษ์ (สาย ปาลนันท์) เจ้าเมืองคนที่ 7 ของมหาสารคาม เห็นว่าโรงเรียนประจำจังหวัดต้องอาศัยเรียนที่ศาลาวัดโพธิ์ศรี เป็นการไม่สะดวกแก่การศึกษา ในปี 2468 จึงดำเนินการก่อสร้างอาคารไม้ชั้นครึ่งบริเวณหลังสถานีตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม (บริเวณที่ตั้งโรงเรียนผดุงนารีปัจจุบัน) และเป็นสถานศึกษาเรียกว่าโรงเรียนประจำจังหวัดมหาสารคาม “สารคามพิทยาคม” จัดการเรียนการสอนรวมกันทั้งชายและหญิง

ครั้นถึงสมัยพระยาสารคามคณาภิบาล เจ้าเมืองมหาสารคาม คนที่ 8 เห็นว่า โรงเรียนประจำจังหวัดมีการสอนรวมกันทั้งเด็กชาย และเด็กหญิง ไม่เหมาะสม อาจส่งผลกระทบต่อการพัฒนาการศึกษา โดยเฉพาะผู้ปกครองเด็กหญิงไม่อยากให้บุตรหลานของตนเรียนรวมกับเด็กชาย จึงจัดสร้างโรงเรียนสตรีขึ้นเป็นโรงเรียนชั่วคราวในบริเวณเดียวกัน และทำพิธีเปิดโรงเรียนเป็นโรงเรียนสำหรับสตรี เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2469

นับแต่นั้นมาการศึกษาเล่าเรียนของเด็กชาย-หญิง ในเมืองมหาสารคามแยกจากกันโดยเด็ดขาด เปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 2

ต่อมาได้มีการจัดสร้างอาคารเรียนถาวรขึ้น ตามแบบกระทรวงธรรมการ หลังคามุงกระเบื้อง เมื่อสร้างเสร็จได้ใช้ชื่อโรงเรียนใหม่ว่า โรงเรียนสตรีประจำจังหวัดมหาสารคาม และเปลี่ยนมาใช้ชื่อว่า โรงเรียนผดุงนารี ตราบจนปัจจุบัน

ในปี พ.ศ.2566 เนื่องในวาระที่โรงเรียนผดุงนารี มีอายุครบ 97 ปี ทางสมาคม ผู้ปกครองและครูโรงเรียนผดุงนารี จึงมีโครงการจัดผ้าป่าหาทุนเพื่อพัฒนาการ ศึกษาให้แก่โรงเรียนผดุงนารี และเพื่อให้ การจัดหาทุนเพื่อพัฒนาการศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ตั้งไว้ ได้มีการขออนุญาตพระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ ประธานสงฆ์วัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม จัดสร้างวัตถุเหรียญรูปเหมือนพระอาจารย์สุริยันต์ รุ่นเจริญลาภ

วัตถุประสงค์พัฒนาการศึกษา ร.ร.ผดุงนารี อาทิ สมทบทุนพัฒนาต่อเติมปรับปรุง หอประชุมโรงเรียน-โรงอาหาร เป็นทุนการศึกษาให้แก่นักเรียนโรงเรียนผดุงนารีที่ขาดแคลน เป็นต้น

สำหรับพระอาจารย์สุริยันต์ ปัจจุบันสิริอายุ 44 ปี พรรษา 24 เป็นพระปฏิบัติดีสืบสายธรรมจากหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิ อาจารย์ชื่อดัง จ.นครพนม

นอกจากนี้ ยังศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกหลายท่าน และศึกษาวิชาตะกรุดกับหลวงปู่สิงห์ คัมภีโร วัดศรีสุข อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม พระเกจิชื่อดังภาคอีสาน เป็นต้น

วัตถุมงคลรุ่นเจริญลาภ ลักษณะเป็นเหรียญปาดตาล มีหูไม่มีห่วง ด้านหน้าเป็นรูปเหมือน พระอาจารย์สุริยันต์ครึ่งองค์ห่มจีวรเฉียง ด้านล่างมีตัวอักษรเขียนว่า พระอาจารย์สุริยันต์ โฆสปัญโญ และล่างสุดเขียนว่า เจริญลาภ ส่วนด้านหลังบนสุดเขียนว่าวัดป่าวังน้ำเย็น จ.มหาสารคาม บริเวณกลางเหรียญเป็นอักขรยันต์มหาสมปรารถนา ด้านล่างสุดเขียนว่า ๙๗ ปี ผดุงนารี ๒๕๖๖ เป็นปีพุทธศักราชที่จัดสร้าง

จำนวนการสร้าง เป็นเนื้อทองคำ สร้าง 11 ชุดรับพระ 3 เหรียญ ประกอบด้วย เนื้อทองคำ เนื้อนวโลหะหน้ากากทองคำ เนื้อเงินลงยาสีม่วงจีวรเหลือง เนื้อเงินหน้ากากทองคำ สร้าง 29 เหรียญ เนื้อเงินลงยาแดงจีวรเหลือง สร้าง 45 เหรียญ เนื้อเงินลงยาเขียว จีวรเหลือง สร้าง 45 เหรียญ เนื้อเงินลงยาน้ำเงินจีวรเหลือง สร้าง 45 เหรียญ เนื้อนวะหน้ากากเงิน สร้าง 99 เหรียญ เนื้อนวโลหะ สร้าง 199 เหรียญ เนื้อทองแดงผิวรุ้ง และเนื้อผงพุทธคุณสร้างรายการละ 2 หมื่นเหรียญ

ประกอบพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถไม้วัดป่าวังน้ำเย็น เมื่อวันที่ 18 ต.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยพระอาจารย์สุริยันต์อธิษฐานจิตเดี่ยวใช้เวลานานนับชั่วโมง พิธีการศักดิ์สิทธิ์จึงแล้วเสร็จสมบูรณ์

ร่วมทำบุญกับโรงเรียนผดุงนารี โทร.06-2449-2974 หรือ 09-8929-4263

เชิด ขันตี ณ พล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน