วันอังคารที่ 28 พ.ย.2566 น้อมรำลึกครบรอบ 111 ปี ชาตกาล “หลวงพ่อเกษม เขมโก” สุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง พระเถราจารย์ปูชนียบุคคลอีกรูป ที่มีผู้มีความเคารพศรัทธาเป็นจำนวนมาก

อีกทั้งยังเป็นเจ้านายในราชวงศ์ทิพย์จักร ที่ออกผนวชอีกด้วย

สำหรับวัตถุมงคลต่างๆ ที่สร้างและปลุกเสก ล้วนเป็นที่นิยมสะสมและแสวงหา

มีนามว่า เจ้าเกษม ณ ลำปาง เกิดเมื่อวันที่ 28 พ.ย.2455 ตรงกับวันพุธ เดือนยี่ (เหนือ) ปีชวด ร.ศ.131 เป็นบุตรใน เจ้าน้อยหนู ณ ลำปาง (ภายหลังเปลี่ยนนามสกุลเป็น มณีอรุณ) ปลัดอำเภอ กับเจ้าแม่บัวจ้อน ณ ลำปาง และเป็นราชปนัดดาในเจ้าบุญวาทย์วงษ์มานิต เจ้าหลวงผู้ครองนครลำปางองค์สุดท้าย

เมื่ออายุ 13 ปี บรรพชา ซึ่งเป็นการบรรพชาหน้าศพ (บวชหน้าไฟ) ของ เจ้าอาวาสวัดป่าดั๊วเป็นเวลา 7 วัน ได้ ลาสิกขาและบรรพชาอีกครั้ง เมื่ออายุ 15 ปี อยู่ที่วัดบุญยืน จังหวัดลำปาง ศึกษาด้านพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบนักธรรมชั้นโทได้ในปี พ.ศ.2474 เข้าพิธีอุปสมบทในปีถัดมา มีพระธรรมจินดานายก เจ้าอาวาสวัดบุญวาทย์วิหาร อดีตเจ้าคณะจังหวัดลำปาง เป็นพระอุปัชฌาย์

ได้รับฉายาว่า เขมโก แปลว่า ผู้มีธรรมอันเกษม

ศึกษาภาษาบาลีที่สำนักวัดศรีล้อม ต่อมาได้ย้ายมาศึกษาแผนกนักธรรมที่สำนักวัดเชียงราย

พ.ศ.2479 สอบได้นักธรรมชั้นเอก เรียนรู้ภาษาบาลีจนสามารถเขียนและแปลได้ แต่ไม่ได้สอบเอาวุฒิ จนครูบาอาจารย์ทุกรูปต่างเข้าใจว่า ไม่ต้องการมีสมณศักดิ์สูง เรียนเพื่อจะนำเอาวิชาความรู้มาใช้ในการศึกษาค้นคว้าพระธรรมคำสอนเท่านั้น








Advertisement

หลังสำเร็จทางด้านพระปริยัติธรรมแล้ว แสาะแสวงหาครูบาอาจารย์ที่มีความรู้และมีความเชี่ยวชาญในด้านวิปัสสนา จนกระทั่ง ทราบข่าวว่ามีพระเกจิรูปหนึ่งมีชื่อเสียงในด้านวิปัสสนา คือ ครูบาแก่น สุมโน จึงฝากตัวเป็นศิษย์

ตามครูบาแก่น ออกท่องธุดงค์ไปแสวงหาความวิเวกและบำเพ็ญเพียรตามป่าลึก จนถึงช่วงเข้าพรรษาจึงต้องแยกทางกับ พระอาจารย์ และกลับมาจำพรรษาที่วัดบุญยืนตามเดิม พอครบกำหนดออก ก็ติดตามอาจารย์ออกธุดงค์บำเพ็ญภาวนา

ต่อมาเจ้าอธิการคำเหมย เจ้าอาวาสวัดบุญยืน มรณภาพ คณะสงฆ์ได้ประชุมเพื่อหาเจ้าอาวาสรูปใหม่ และต่างลงความเห็นพ้องต้องกันเห็นควรว่ามีคุณสมบัติเหมาะสมกับตำแหน่งเจ้าอาวาส

ครั้นเมื่อได้รับเลือกเป็นเจ้าอาวาสวัดบุญยืน ก็ไม่ยินดียินร้าย แต่ท่านก็ห่วงทางวัด เพราะเคยจำพรรษาที่วัดแห่งนี้ เห็นว่าถือเป็นภารกิจทางศาสนา ต้องการให้พระศาสนานี้ดำรงอยู่

หลังจากนั้น ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสหลายครั้ง เนื่องจากต้องการจะออกธุดงค์ แต่ไม่เป็นผลสำเร็จ ดังนั้น จึงออกจากวัดบุญยืนไปที่ศาลาวังทาน พร้อมเขียนข้อความลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสไว้ด้วย

เป็นพระสายวิปัสสนาธุระ ไม่ยึดติดแม้แต่สถานที่ปฏิบัติธรรม ณ สุสานไตรลักษณ์ ตลอดชีพ เป็นพระที่เป็นที่เคารพสักการะทั้งจังหวัดลำปางและทั่วประเทศ

วิธีสอนของท่านมักเน้นอุปมาอุปไมยให้ไปขบคิด เรื่องที่เทศนา มุ่งเอาพุทธวจนะเป็นที่ตั้ง

ครั้งหนึ่งในการเทศน์งานศพ มีคนตั้งใจฟัง นั่งคุยกันจนหนวกหู หลวงพ่อเกษมจึงใช้กระป๋องเนยเปล่าเป็นอุปกรณ์ ช่วยขยายเสียงด้วยการสะท้อนเสียงเข้าไปในกระป๋อง เท่านั้นเสียงท่านดังกังวานคล้ายวิทยุ เป็นกุศโลบายแบบหนึ่งที่ใช้จูงใจให้ ใฝ่ธรรม

วันจันทร์ที่ 15 ม.ค.2539 มรณภาพที่โรงพยาบาลลำปาง จ.ลำปาง สิริอายุ 84 ปี พรรษา 64

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน