หลังจากโหมโรงมาจนประชาชนตั้งตารอคอย นั่นคือ การแถลงมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้กับประชาชนคนไทยครั้งใหญ่ ของรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน เพราะเป็นปัญหาใหญ่อย่างแท้จริงของผู้คนมากมายในสังคมไทย
การแถลงของนายกฯ เศรษฐา มาพร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รมช.คลัง และพล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร.ตัวแทนตำรวจ
เท่ากับว่าแผนแก้หนี้นอกระบบครั้งนี้ จะมีทั้งมหาดไทย ตำรวจ และกระทรวงการคลัง ร่วมกันทำงาน
โดยนายกฯ เศรษฐาระบุว่า ฝ่ายปกครองนั้นใกล้ชิดประชาชน ตำรวจเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย กระทรวงการคลังจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ รวมทั้งมีกระบวนการให้ประชาชนสามารถชดใช้หนี้ได้
เพราะปัญหานี้เรื้อรังและใหญ่เกินกว่าที่จะแก้ได้โดยไม่มีภาครัฐเป็นตัวกลาง
รวมทั้งยืนยันว่า นอกจากการแก้ไขหนี้แล้ว รัฐบาลจะฟื้นฟูเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งตั้งแต่ระดับ ครัวเรือนจนขึ้นไปถึงระดับมหภาค ทำให้ไม่กลับไปมีหนี้ล้นพ้นตัวอีก!
ฟังแล้วเห็นภาพได้ว่า หนี้นอกระบบที่โถมทับสังคมไทย จนรัฐต้องยื่นมือเข้ามาจัดการสะสาง
นำปัญหาขึ้นมาวางบนโต๊ะ เอากฎหมายเข้ามากำหนด หาทางออกที่ถูกต้องเป็นธรรม พร้อมกับเร่งฟื้นเศรษฐกิจเพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ ไม่จนตรอกจนหันไปหานายทุนนอกระบบอีก
ตัวเลขหนี้นอกระบบ ที่นายกฯ เศรษฐาหยิบยกมากล่าวคือ มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท!!
เป็นตัวเลขที่มอบหมายให้หน่วยงานที่รับผิดชอบรวบรวมมาก่อนหน้านี้ ซึ่งปัญหาจริงอาจจะมากกว่านี้
ถึงขั้นที่นายกฯ เปรียบเทียบปัญหาหนี้นอกระบบว่า เป็นการค้าทาสยุคใหม่!
ทำให้ต้องใช้หลายหน่วยงานมาร่วมกันเพื่อแก้ไขให้ได้
วิธีการที่เป็นรูปธรรมคือ จัดการไกล่เกลี่ยพร้อมกัน ดูแลทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้อย่างเป็นธรรม ตั้งแต่ต้นกระบวนการจนถึงการปิดหนี้
การทำสัญญาและดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม การทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรง ต้องจัดให้ทำสัญญาที่เป็นธรรม และไม่มีระบบนักเลงมาเฟียอีก!
ถ้าไกล่เกลี่ยยุติก็เป็นอันจบ
แต่ในรายที่ยังไม่สามารถยุติได้ทันที รัฐบาลจะช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ช่วยปรับระยะเวลา เงื่อนไข และช่วยให้สามารถใช้หนี้ได้อย่างไม่เป็นทาส
ประเด็นสำคัญ ในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบ รัฐจะใช้หลักเกณฑ์เรื่องดอกเบี้ยตามกฎหมายเข้ามากำกับ
นำตัวเลขหนี้สินมาวาง แล้วใช้กฎหมายมาเป็นไม้บรรทัด ห้ามคิดเกินร้อยละ 15 ต่อปี
พร้อมกับตรวจสอบว่า ตั้งแต่เป็นหนี้จ่ายเงินไปแล้วเท่าไหร่ หากจ่ายเกินไปแล้วก็ต้องยกเลิกต่อกัน
สรุปว่าฟังคำแถลงแล้วไม่น่าผิดหวัง เพียงแต่ขอให้ทำได้จริงสำเร็จจริง!
วงค์ ตาวัน