จ่อจ้างที่ปรึกษาลงทุนกรณีไม่ต่อสัญญาสัมปทาน

ศาลาว่าการกทม. – เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวถึงความคืบหน้าการเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต และแบริ่ง-สมุทรปราการ (ชั่วคราว) อัตรา 15 บาท รวมเส้นทางหลักไม่เกิน 62 บาท ว่า ภายหลัง กทม.ส่งหนังสือถึงกระทรวงคมนาคม เพื่อสอบถามความเห็นนโยบายเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ทราบว่าปลัดกระทรวงคมนาคมได้ส่งเรื่องไปยัง 3 หน่วยงานหลักด้านเกี่ยวกับระบบขนส่งมวลชน ได้แก่ สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรวบรวมความเห็นจาก 3 หน่วยงานดังกล่าว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้ากระทรวงคมนาคมจะส่งหนังสือตอบกลับกทม. จากนั้นจะเสนอนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงนามประกาศเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย

ทั้งนี้ การประกาศเก็บค่าโดยสารไม่จำเป็นต้องรอให้ครบ 30 วัน สามารถจัดเก็บได้ ขึ้นอยู่กับความพร้อม ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด หรือบีทีเอสซี หากระบบพร้อมสามารถเก็บได้ทันที เพื่อนำรายได้จากค่าโดยสารสำหรับชำระหนี้ให้กับ บีทีเอสซี

นายวิศณุกล่าวต่อว่า สำหรับเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยาย ช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน ปัจจุบัน กทม.มีแนวคิดที่จะดำเนินการเอง เพราะเป็นส่วนต่อขยายเชื่อมจากโครงการเดิมช่วงตากสิน-บางหว้า โดยมอบให้ สจส.เตรียมจัดสรรงบสำหรับว่าจ้าง ที่ปรึกษาเพื่อศึกษาความเหมาะสมของโครงการ ดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.เอกชนร่วมลงทุน หรือรูปแบบ PPP โดยจะให้สอดรับกับเส้นทางหลัก ที่จะครบสัมปทานปี 2572 กรณีไม่ต่อสัญญาสัมปทาน ซึ่งจะใช้ วิธีเปิดประมูลใหม่ตาม พ.ร.บ.เอกชนร่วมลงทุน โดยจะรวมเส้นทางส่วนต่อขยายทั้งหมดไปด้วย คาดว่าปี 2567 น่าจะมีความชัดเจนจากรัฐบาลว่าจะให้ขยายสัมปทานแลกมูลหนี้ หรือเปิดประมูลใหม่ ตาม พ.ร.บ.เอกชนร่วมลงทุน ส่วนสายสีเทา วัชรพล-ทองหล่อ และสายสีเงิน บางนา-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยืนยันโอนให้ รฟม.ดำเนินการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน