คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ต่อความพยายามในเรื่อง “ปลดล็อก” พรรคการเมือง ท่าทีระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์มีความแตกต่างกัน

พรรคประชาธิปัตย์ เรื่อยๆ มาเรียงๆ

อาจมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมา อาจมี นายวิรัตน์ กัลยาศิริ เจ้าเก่าออกมา แต่ก็ด้วยท่วงทำนองที่นุ่มนวล เกรงอกเกรงใจ

ไม่มีเสียงจาก นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ยิ่ง นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ยิ่งเงียบ

หากกล่าวสำหรับแกนนำกปปส. ไม่ว่า นายถาวร เสนเนียม ไม่ว่า นายอิสระ สมชัย กบดาน นิ่งสนิทอยู่ในที่ตั้ง ไม่แสดงการไหวเคลื่อนใดๆ

เหมือนกับจะบ่งบอกว่ามั่นใจในกระบวนการของ นายมีชัย ฤชุพันธุ์

ตรงกันข้าม พรรคเพื่อไทยเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบ เคลื่อนไหวอย่างเป็นกระบวนการ ตั้งแต่ นายสุร พงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ยัน นายคณิน บุญสุวรรณ








Advertisement

เรียงแถวหน้ากระดานออกมาอย่างเข้มข้นคึกคัก

การออกมาของ นายคณิน บุญสุวรรณ นั้นเป็นที่คาดหมายได้อยู่แล้ว เพราะว่าเขาอยู่ในฐานะประธานคณะกรรมการติดตามการร่างกฎหมายลูก

เป็นสถานะอย่างเดียวกันกับ นายสามารถ แก้วมีชัย

ขณะที่กล่าวสำหรับ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ก็อยู่ในบทบาทอันเป็น “เจ้าประจำ” ไม่ว่าประเด็นการเมืองระหว่างประเทศ การเมืองในประเทศ หรือแม้กระทั่งในเรื่องทางเศรษฐกิจ

แต่ที่ควรจับตาก็คือ นายชัยเกษม นิติสิริ

หากเมื่อใด นายชัยเกษม นิติสิริ ออกมาพร้อมกันกับ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทยเอาจริงเอาจังอย่างยิ่ง เพราะ 2 คนนี้ คนหลังเคยเป็นผู้พิพากษา คนแรกเคยเป็นอัยการสูงสุด ทั้งยังเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมมาแล้ว

นี่คือทัพด้านกฎหมาย นี่คือทัพด้านรัฐธรรมนูญ

มีความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่งที่ทั้งพรรคประชาธิปัตย์และแกนนำกปปส.จะเริ่มเอาจริงเอาจังมากยิ่งขึ้นพลันที่ร่างพ.ร.บ.พรรคการเมืองเข้าสู่กระแสในทางสังคม

เพราะว่าสัมพันธ์กับ “พรรคการเมือง” โดยตรง

ประเด็นที่มากด้วยความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งก็คือ ภายในคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญซึ่งรับผิดชอบในการจัดทำ “กฎหมายลูก” ไม่มีคนมีประสบการณ์กับ “พรรคการเมือง”

อาจมีประสบการณ์ทาง “กฎหมาย” แต่ไม่เคยสัมพันธ์กับ “พรรคการเมือง”

ความนึกคิดจึงเป็นความนึกคิดจาก “นักสังเกตการณ์” มิได้เคยคลุกวงในในแบบ “นักการเมือง” มาก่อน กระบวนการจึงฟุ้งๆ ฝันๆ ไม่อยู่กับสภาพความเป็นจริง

จึงไม่เพียง “หัว” เท่านั้นที่จะโผล่ แม้กระทั่ง “หาง” ก็ไม่มีเว้น

ก็บอกแล้วว่านับแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไป ความร้อนแรงของ “การเมือง” จะเพิ่มทวีขึ้นเป็นลำดับ

ยิ่งกำหนดแห่ง “โรดแม็ป” ใกล้เข้ามามากเท่าใด คสช.และรัฐบาลจะกลายเป็น “เป้านิ่ง” ในทางการเมืองไปโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะขยับเล็ก ไม่ว่าจะขยับใหญ่ ล้วนเป็น “ประเด็น”

“ฤดูหนาว” ทางการเมืองย่างสามขุมเข้ามาแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน