กระทบ สะเทือน
เด็ดหัว ไทยรักษาชาติ
กับ อนาคตใหม่
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ไทยรักษาชาติ – ภายหลังคำวินิจฉัยยุบพรรคไทยรักษาชาติจากคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยคะแนนอันเป็นเอกฉันท์ คำถามที่ตามมาก็คือ ฐานคะแนนของพรรคไทยรักษาชาติจะโน้มเอนไปกับพรรคใด
แน่นอน ย่อมมิใช่พรรคพลังประชารัฐ หรือพรรครวมพลังประชาชาติไทย
ยิ่งพรรคประชาชนปฏิรูปที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน น้อมนำคำสอนของพุทธองค์มาเป็นเครื่องนำทางในการร้องทุกข์กล่าวโทษพรรคไทยรักษาชาติ
ยิ่งมีโอกาสได้ “อานิสงส์” น้อยมาก
ขณะเดียวกัน พรรคประชาธิปัตย์ที่เดินทางไปรอรับส้มหล่นจาก 2 เขตในพื้นที่จังหวัดแพร่ของพรรคไทยรักษาชาติก็ยากในระดับ “ยากส์”
ความเป็นจริงที่จะต้องยอมรับร่วมกันก็คือ คะแนนส่วนหนึ่งจะย้อนกลับไปยังพรรคเพื่อไทยอันเป็นฐานเดิมของ พรรคไทยรักษาชาติ
บางส่วนอาจกระจายไปให้กับพรรคเพื่อชาติ
แต่เชื่อได้เลยว่าจำนวนไม่น้อยจะไหลไปให้กับพรรคอนาคตใหม่ซึ่งส่งผู้สมัครระดับเขตครบทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ
โอกาสที่พรรคอนาคตใหม่จะได้ส.ส.เขตมีมากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนั้นดาบหอกกระบอกปืนอันเคยมาจาก บรรดาลุงๆ ป้าๆ ก็จะยิ่งโหมกระหน่ำรุนแรงแข็งกร้าวมาก ยิ่งขึ้นจนถึงขั้นอาจเป็นรายต่อไปจากพรรคไทยรักษาชาติ
แม้มาตรการยุบพรรคจะถือได้ว่าเป็นมาตรการขั้นรุนแรงอย่างที่เรียกกันว่าเป็นการประหารชีวิตต่อพรรคการเมือง
แต่คำถามก็คือได้ผลหรือไม่
หากศึกษาจากที่เคยยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนพฤษภาคม 2550 หากศึกษาจากที่เคยยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 ก็ต้องยอมรับว่ามาตรการรุนแรงนี้ไม่ WORK
เพราะเมื่อยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชนก็ยังกำชัยจากการเลือกตั้งเดือนธันวาคม 2550 เมื่อยุบพรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทยก็ยังกำชัยจากการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554
เดือนมีนาคม 2562 อาจยุบพรรคไทยรักษาชาติ แต่กำจัดได้หรือไม่ในทางเป็นจริง
หากดูจากปฏิกิริยาในทางสังคมและในทางการเมืองก็ประเมินได้เลยว่า การยุบพรรคไทยรักษาชาติก็จะเป็นไปในแนวทางเดิม
นั่นก็คือ ยุบได้แต่พรรคขณะที่ “ความคิด” มิได้ถูกยุบ
ความเด่นชัดยิ่งก็คือ ความคิดของพรรคไทยรักษาชาติ ที่ต่อต้านคสช. ขวางการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้หายไปด้วย
ความคิดนี้ต่างหากที่ยังมีชีวิตและยังมีพลัง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง