วิเคราะห์การเมือง
ความเงียบอันดำรงอยู่ภายในพรรคเพื่อไทย เป็นความเงียบที่สามารถเข้าใจได้ ไม่เพียงแต่ในสถานการณ์การยึดอำนาจซึ่งเริ่มต้นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
นั่นก็คือ เป็นความเงียบอันเนื่องแต่คำสั่งคสช.
คล้ายกับเป็นคำสั่งที่ห้ามการเคลื่อนไหวและชุมนุมทางการเมืองเกิน 5 คน หากแต่สามารถครอบคลุมมายังพรรคการเมืองทุกพรรค และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทย
การประชุมสมาชิกพรรค หรือกรรมการบริหาร ไม่จำเป็นต้องพูดถึง
กระนั้น หากติดตามชะตากรรมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตกเป็นฝ่ายถูกกระทำอย่างต่อเนื่องตั้งแต่การถอดถอนกระทั่งการกำหนดค่าเสียหายอันเนื่องแต่การดำเนินโครงการสาธารณะ
ก็ยิ่งแจ้งในเป้าหมายและเจตนา
สถานการณ์สำหรับสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่เป็นแกนนำระดับอดีตรัฐมนตรี ระดับอดีตส.ส. จึงต้องระมัดระวังตัวอย่างเป็นพิเศษ
Advertisement
ไม่แน่ใจในชะตากรรม ไม่แน่ใจในอนาคต
กระหึ่มแห่งการโยนหินถามทางในเรื่อง “เซ็ต ซีโร่” ที่ออกมาระลอกแล้วระลอกเล่าสร้างความกังขา สร้างความไม่แน่ใจให้เป็นอย่างสูง
ไม่ว่าในพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าในพรรคเพื่อไทย
พรรคประชาธิปัตย์อาจยังไม่ร้อนรนกระวนกระวายเท่าใดนัก เพราะบางส่วนของพรรคที่เป็น “กปปส.” ก็มีสายสัมพันธ์อันดีอยู่กับคสช.
แต่กล่าวสำหรับพรรคเพื่อไทยถือได้ว่า “เยื่อใย” แทบไม่มีอยู่เลย
ที่เคยคุยโวว่าแนบแน่นอยู่กับหัวแถวของ “คสช.” ก็เริ่มไม่แน่นอน เพราะว่าชะตากรรมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ประสบ นับวันยิ่งรุนแรงและร้ายกาจ หากเล่นกันถึงขนาดจะเรียกค่าเสียหายจากกรณีน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 ก็แทบไม่เหลือหนทางให้เดินอีกแล้ว
แล้วการ “เซ็ต ซีโร่” ย่อมมีแนวโน้มและความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง
ยังมีแกนนำพรรคเพื่อไทยจำนวนไม่น้อยยังหลงใหลและเคลิบเคลิ้มต่อสายสัมพันธ์ที่บางฝ่ายบางคนมีอยู่ว่าจะสามารถคุ้มครองไปได้
กระทั่งเพ้อฝันว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะ “เซ็ต ซีโร่”
ขณะเดียวกัน เมื่อเห็นมาตรการ “เด็ดหัว” คนแล้วคนเล่าจาก นายประชา ประสพดี มายัง พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ก็เริ่มเห็นเค้าลาง
เค้าลางว่า 40 กว่าอดีตส.ส.อาจไม่รอดปลอดภัย
มีความเป็นไปได้ว่า เป้าหมายที่มีต่อแกนนำและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยจะมิได้เป็นจำนวนหลักสิบ หากแต่น่าจะทะยานไปยังหลักร้อย
เท่ากับเป็นการ “เซ็ต ซีโร่” ไปโดยอัตโนมัติ
ถามว่าทำไมเป้าหมายในการจัดการทางการเมืองจึงพุ่งเป้ามายังแกนนำและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยเป็นหลัก
ตอบได้เลยว่าเป็นการดำรงจุดมุ่งหมายจากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มายังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 อย่างไม่แปรเปลี่ยน
จากพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มายังพรรคเพื่อไทย