ปม รัฐธรรมนูญ # อยู่เป็น # อยู่ไม่เป็น ภายใน รัฐบาล
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ปม รัฐธรรมนูญ # อยู่เป็น # อยู่ไม่เป็น ภายใน รัฐบาล – เพียงเห็นการเคลื่อนเล็กๆ ของพรรคประชาธิปัตย์โดยการรุนหลัง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เข้าไปชิงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเกี่ยวกับ “รัฐธรรมนูญ”
ก็เกิด “อาการ” ทางการเมืองขึ้นโดยอัตโนมัติ
น่าสนใจก็ตรงที่มิได้เป็นอาการอันมาจาก พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย
หากแต่มาจาก “รัฐบาล” มาจากพรรคพลังประชารัฐ
เหมือนกับไม่ว่า นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ไม่ว่า นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ไม่ว่า นายวิรัช รัตนเศรษฐ ล้วนมองพรรคประชาธิปัตย์ราวกับเป็นญาติกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคอนาคตใหม่
การยืนยันว่าตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญต้องเป็นของพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่ของพรรคประชาธิปัตย์สะท้อนอะไรๆ ออกมาได้อย่างล่อนจ้อน
ทั้งๆ ที่พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ต้องการจะแก้ “รัฐธรรมนูญ”
ตั้งแต่ก่อรูปเป็นพรรคพลังประชารัฐขึ้นมา คนสำคัญของพรรคนี้ไม่เคยสนใจเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีแต่พร่ำบอกว่า “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”
แต่เมื่อพรรคประชาธิปัตย์อยากเป็นประธานคณะกรรมาธิการ กลับไม่ยอม
ทำให้ชาวบ้านมองเห็นอย่างเด่นชัดว่า ที่พรรคพลังประชารัฐต้องการกุมตำแหน่งประธานมิใช่เพื่อต้องการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ หากแต่เพื่อสกัดมิให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่า
น่าสนใจก็ตรงที่ได้เกิดเสียงเชียร์อย่างคึกคักและกว้างขวางจากวงนอก เชียร์ให้พรรคประชาธิปัตย์เดินหน้ายืนยันในเรื่องนี้
เชียร์ให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้เป็นประธาน
ขณะเดียวกัน บรรดาลูกแหล่งตีนมือของคสช. ไม่ว่าจะอยู่ในรัฐบาล ไม่ว่าจะอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะอยู่ในวุฒิสภา ต่างออกมายืนขวางพรรคประชาธิปัตย์
สังคมเกิดการแบ่งแยกกลุ่มฝ่ายออกมาอย่างเด่นชัด
แม้จะมีเสียงดังจากฝ่ายปกป้องรัฐธรรมนูญ แต่นับวันเสียงที่เรียกร้องต้องการให้มีการแก้ไขหรือกระทั่งยกเครื่อง “รัฐธรรมนูญ” ขึ้นใหม่ยิ่งดังกึกก้องกลายเป็น “กระแส” ในที่สุด
นี่เป็นเรื่องที่เหมือนกับเป็นเรื่องภายในของรัฐบาล เพราะในคณะกรรมาธิการ 49 คนก็เป็นฝ่ายรัฐบาลไปแล้ว 30 มีที่เป็นของฝ่ายค้านก็เพียง 19 คนเท่านั้น
ถามว่าใน 30 คนนี้จะเลือกคนของพรรคใด
หากจะเลือกคนที่พรรคพลังประชารัฐเสนอมาก็สะท้อนลักษณะ # อยู่เป็นไปตามปกติ แต่หากเมื่อใดคะแนนเป็นของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็จะกลายเป็นปรากฏการณ์
นั่นก็คือ ปรากฏการณ์แบบ # อยู่ไม่เป็น
อ่านข่าว