คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง : บทเรียน ล้ำค่า นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โยนหิน ถามทาง
บทเรียน ล้ำค่า – หากมองกรณี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ในลักษณะโยนหินถามทาง
ปฏิกิริยาอันสะท้อนผ่านสังคม ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์อย่าง “ป้าฟองสนาน” ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์
อย่าง“ลุงชูชาติ” ก็บ่งบอกอุณหภูมิแห่งความรู้สึก เด่นชัด
ยังท่าทีร้อนแรงจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อีกเล่า
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ไม่เพียงแต่จะแสดงอาการ“กัมมันตะ”ในการทำงานอย่างแข็งขัน หากแต่ยังเสนอประเด็นทางการเมืองถึงขั้นเสนอ“ยุบสภา” ขึ้นมา
การชู นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จึงมิได้สูญเปล่า
เป็นไปได้หรือว่ากรณี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จะเป็นอุบัติเหตุ
นั่นก็คือ เป็นอาการพลั้งเผลอหรือตกอยู่ในสถานการณ์แห่งความนิยมชมชอบในบทบาทของ นาง
นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ จนแถลงออกมาเป็นตุเป็นตะ
เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนสำหรับ นายอนุชา นาคาศัย
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าที่เป็นเงาทะมื่นอยู่ข้างหลัง นายอนุชา นาคาศัย 1 คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ 1
คือ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ซึ่งมองเกมการเมืองได้ทะลุปรุใส
มีหรือที่จะเป็น“อุบัติเหตุ” ตรงกันข้าม กลับจริงใจ
เพียงเวลาไม่กี่วันจากวันที่ 27 มิถุนายน ผลสะเทือนก็แจ่มชัด
แจ่มชัดว่าเหมือนกับ“กลุ่ม 4 กุมาร”จะถอยเพราะถูกรุกอย่างต่อเนื่องทางการเมือง แต่เด่นชัดว่าเนื้อแท้แล้วมิได้เป็นการถอยอย่างหนียะย่ายพ่ายจะแจ
ตรงกันข้าม กลับมากด้วย“เขี้ยว”และมากด้วย“คม”แจ่มชัดว่าแม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ก็ยืนอยู่ข้างเดียวกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ“กลุ่ม 4 กุมาร”อย่างเหนียวแน่นและมั่นคง
การเจาะทะลวงเข้าไปอาจมากด้วยอุปสรรคและปัญหา
ความเป็นจริงจากกรณีของ นางนฤมล ภิญโญ สินวัฒน์ จึงฉายรายละเอียด
เป็นรายละเอียดของปัญหาภายในพรรคพลัง ประชารัฐ เป็นรายละเอียดของปัญหาอันจะต้องเกิดขึ้น
ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพรรคพลังประชารัฐ
โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นกรรมการ