คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ปกป้อง “พี่ทราย” – ไม่น่าเชื่อว่ากัมปนาทแห่งเสียงปืนที่ย่านรัชโยธินคืนวันที่ 25 พฤศจิกายน จะรุนแรง
เหมือนกับเป้าหมายคือ “การ์ด” อาชีวะ แต่หากมองอย่างจำแนก แยกแยะ ประเมินผล ก็จะสัมผัสได้ในจุดมุ่งหมายที่มากและกว้างไกลยิ่งกว่านั้น
1 โยงไปยัง “ท่อน้ำเลี้ยง” 1 โยงไปยังเอกภาพของ “การ์ด”
เพราะมีการผลักดัน # แบนเพนกวิน ขึ้นมาพร้อมกับการกระหน่ำไปยังบทบาทของ “ปัญญาชน” เพื่อแยกสลาย “อาชีวะ” ออกไป
แต่โดยพื้นฐานยังเน้นในเรื่อง “ท่อน้ำเลี้ยง”
ในที่สุดแล้ว ความสนใจจากอีกฝ่ายยังอยู่ที่ปมแห่ง “ท่อน้ำเลี้ยง” ของการชุมนุม
คำถามก็คือ จากเดือนกรกฎาคม สิงหาคม กันยายน ตุลาคม พฤศจิกายนและกำลังย่างเข้าสู่เดือนธันวาคม การชุมนุมของ “เยาวชนปลดแอก” ดำรงอยู่อย่างไร
เมื่อเทียบกับพันธมิตรปี 2549 เมื่อเทียบกับกปปส.ปี 2557
2 การเคลื่อนไหวนั้นรับรู้ว่า “แกนนำ” เป็นใคร และ “เงินทุน” อันเป็นท่อน้ำเลี้ยงสำคัญหลั่งไหลมาจากไหนและอย่างไร แต่ต่อกรณี “เยาวชนปลดแอก” กลับดำมืด
ทั้งๆ ที่สงสัยอย่างยิ่งว่าชุมนุมอย่างยืดเยื้อยาวนานได้อย่างไร
ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ในทุกการชุมนุมจำเป็นต้องใช้เงิน จำเป็นต้องมีเงินทุน
เพียงแต่เมื่อมองผ่านพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยก็รู้ว่าใครเป็นคนหาเงิน เพียงแต่เมื่อมองผ่านมวลมหาประชาชนกปปส.ก็รู้ว่าใครเป็นคนนับเงิน
แต่ม็อบ “เยาวชนปลดแอก” มองอย่างไรก็ไม่เก็ต
ไม่เก็ตว่า นายอานนท์ นำภา จะหาเงินมาอย่างไร ไม่เก็ตว่าเม็ดเงินจะผ่าน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ มากน้อยเพียงใด ไม่เก็ตว่า ฟอร์ด ทัตเทพ จะหาเงินเก่งหรือไม่
ปฏิบัติการทะลวงเข้าหา “พี่ทราย” และ “เฮียบุ๊ง” จึงปรากฏ
แม้จะใช้ปฏิบัติการด้านการข่าวอย่างสาหัสสากรรจ์อย่างไรแหล่งเงินทุนก็ไม่ปรากฏ
ตรงกันข้าม ยิ่งโจมตี มวลชนกลับออกมาปกป้อง “พี่ทราย” ราวกับไข่ในหิน ยัง “เฮียบุ๊ง” อีกเล่าก็หนักแน่นและจริงจังอย่างยิ่งในการช่วยน้องๆ
เท่ากับชี้ว่า “มวลชน” คือผนังทองแดง กำแพงเหล็กอย่างแท้จริง