คอลัมน์วิเคราะห์การเมือง

อนาคต การเมือง

อนาคต ทักษิณ ชินวัตร

เลือกตั้ง เชียงใหม่

วิเคราะห์การเมือง -การออกตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร ในทางการเมืองมีความแหลมคม

ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวครั้งแรกกรณี นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร ไม่ว่าจะเป็นการออกตัวครั้งหลังกรณีมีคนของพรรคเพื่อไทยแยกตัวออกไปแล้วโจมตีพรรคเพื่อไทย

มีคำถามว่าอะไรคือเหตุ อะไรคือปัจจัยในทางการเมือง

ต้องยอมรับว่า กรณี นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร เป็นการตอบคำถามว่าอยู่ข้างไหน ต้องยอมรับว่ากรณีแรกกับกรณีหลังมีความสัมพันธ์และยึดโยงกันอย่างแนบแน่น

นั่นก็คือ นายทักษิณ ชินวัตร รักและเป็นห่วงพรรคเพื่อไทย

ความละเอียดอ่อนยิ่งในทางการเมือง คือ แยกตัวออกไปแล้วหันมาเล่นงานพรรค

นับแต่ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2541 เป็นต้นมา มิได้หมายความว่าคนของพรรคไทยรักไทยจะดำรงอยู่อย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย

เพราะจากพรรคไทยรักไทยก็มีพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย

ในท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงนับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ต่อเนื่องมายังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มีการเข้ามีการออกอำลาจากไปมากมาย

บางคนไปเฉยๆ บางคนออกไปแล้วหันมาเล่นงานพรรคเก่าของตน

จึงเด่นชัดอย่างยิ่งว่า นายทักษิณ ชินวัตร สะเทือนใจจากเหตุปัจจัยอะไร

รูปธรรมหนึ่งซึ่งรับรู้กันอย่างกว้างขวางก็คือ กรณีที่พรรคเพื่อไทยเลือก นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร แทนที่จะเป็น นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ ในการลงสมัครนายกอบจ.เชียงใหม่

ตัวละครหนึ่งซึ่งมีบทบาทสำคัญ คือ นายจตุพร พรหมพันธุ์

ไม่ว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ จะชมชอบ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อย่างไร แต่ในความชมชอบมีการวิพากษ์วิจารณ์พรรคเพื่อไทยและบางคนในพรรคเพื่อไทยอยู่ด้วย

ตรงนี้แหละที่ทำให้ นายทักษิณ ชินวัตรสะเทือนใจ

การตัดสินใจของชาวเชียงใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคมจึงมีความสำคัญ

ไม่เพียงสำคัญต่ออนาคตทางการเมืองของ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หากแต่ยังสำคัญต่ออนาคตทางการเมืองของ นายบุญเลิศ บูรณุปกรณ์ อีกด้วย

สำคัญต่ออนาคตของ นายจตุพร พรหมพันธุ์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน