คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
สายตา มองม็อบ – มีความเชื่อมั่นค่อนข้างสูงว่าในปี 2564 การ เกิดขึ้นของ “ม็อบ”จะฝ่อลง แผ่วลง
คำว่า “ม็อบ” ในที่นี้หมายอย่างเป็นการจำเพาะเจาะจงไปยังม็อบ “เยาวชนปลดแอก” อันเริ่มขึ้น ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเดือนกรกฎาคม
อันพัฒนามาเป็น “คณะราษฎร 2563” ในเดือนตุลาคม
เป็นความเชื่อมั่นจากความพ่ายแพ้ของคณะก้าวหน้าในสนามเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาอบจ.เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่ไม่ได้รับเลือกเป็นนายกอบจ.เลยแม้แต่คนเดียว
ความเชื่อมั่นเช่นนี้มาจากรากฐาน“ความคิด”อะไร
ความเชื่อมั่นจากกรณีวันที่ 20 ธันวาคมก็เหมือนกับความเชื่อมั่นจากกรณีวันที่ 24 กันยายน
กรณีวันที่ 24 กันยายนสัมพันธ์กับ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ณ ศิริราชพยาบาล ที่เรียกกันว่า “กรณีกราบสะท้านฟ้า” นำไปสู่ความเชื่อมั่นว่าม็อบจะ ฝ่อลง แผ่วลง
Advertisement
เนื่องจากอิทธิพลจากบทบาทของ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์
กรณีวันที่ 20 ธันวาคมสัมพันธ์กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เนื่องจากความ พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งนำไปสู่การถอดใจวางมือทาง การเมือง
เป็นความเชื่อว่า อิทธิพลของทั้ง 2 มีผลสะเทือนไปยังการชุมนุม
นั่นก็เพราะเป็นการประเมินว่าทุกการเคลื่อนไหว ทุกการชุมนุมต้องมี “ผู้บงการ”
ในเมื่อ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มีอิทธิพลต่อพรรคเพื่อไทย กรณีที่ศิริราชพยาบาลเด่นชัดว่า คุณหญิงกราบใคร และยืนอยู่ตรงไหนในทางการเมือง
สาย “ซัพ” อันเคยมาจากพรรคเพื่อไทยก็ต้อง ลดน้อยลง
ในเมื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประสบกับความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาอบจ.อย่างหนัก การให้ความสนับสนุนต่อการชุมนุมก็ จะต้องฝ่อลง แผ่วลง
เท่ากับมองข้ามบทบาทและความเข้มแข็งของ “ราษฎร” อย่างสิ้นเชิง
เบื้องหน้าความเชื่อมั่นและการคาดหมายว่าแนวโน้มของม็อบจะฝ่อลงแผ่วลง
คำตอบที่ดีที่สุดจึงอยู่ที่ว่าเมื่อผ่านเดือนธันวาคม 2563 เข้าสู่เดือนมกราคม 2564 คำตอบจากปฏิบัติการที่เป็นจริงก็จะเผยแสดงออกมาให้เห็นเป็นลำดับ
น้อยลง ฝ่อลง หรือว่ากลับคึกคักหนักแน่นมาก ยิ่งกว่า