คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
แรงงาน ข้ามชาติ – กรณีของ “แรงงาน” เหมือนกับผีซ้ำด้ำพลอย เมื่อมีการเข้ามาของ “โรฮิงยา”
ลำพังแรงงานข้ามชาติในตลาดกุ้ง สมุทรสาคร ก็สร้างความตื่นตระหนกเป็นอย่างสูงอยู่แล้ว แต่นี่เกิดมีการเข้ามาของแรงงานโรฮิงยาเข้ามาอีกที่สนามบินดอนเมือง
ผลการตรวจทางการแพทย์ปรากฏว่าติดโควิด 7 คน
คำถามมิได้อยู่ที่ว่าติดโควิดได้อย่างไร ประการเดียว หากแต่ยังอยู่ที่ว่าเดินทางมาถึงสนามบินดอนเมืองได้อย่างไรโดยไม่ติดกับ“ด่าน”ตรวจใดๆ ทั้งสิ้นจากชายแดน
หาก “เส้น” ไม่ใหญ่ระดับก๋วยจั๊บคงไม่มาได้ระดับนี้แน่นอน
คำถามก็คือเหตุใดจึงเกิดสถานการณ์แรงงานข้ามชาติ “นอกระบบ” ปะทุขึ้น
คําตอบรับฟังได้จากการอภิปรายอย่างยาวเหยียดของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลซึ่งนำเอาตัวเลขจากกระทรวงแรงงานมาเปิดเผย
โควิดระบาดรอบแรกมีแรงงานหนีกลับ 8 แสนคน
เมื่อสถานการณ์ผ่อนคลายนับแต่เดือนกรกฎาคม 2563 ได้มีการเปิดการลงทะเบียนแรงงานเข้ามาทำงานใหม่ ปรากฏว่ามีแรงงานข้ามชาติมาลงทะเบียนไม่ถึง 1 แสนคน
ทั้งๆ ที่ตลาดต้องการแรงงานมากถึง 8 แสนคน
ในเมื่อตลาดต้องการแรงงานถึง 8 แสน แต่มีมาได้เพียง 1 แสนคนก็ย่อมมองออก
มองออกว่าส่วนที่ขาดหายไปจำนวนร่วม 7 แสนคนที่จะเข้ามาถมช่องว่างนี้ในตลาดแรงงานของไทยเป็นการได้มาอย่างไรในทางเป็นจริง
คำตอบคือ เป็นแรงงาน“นอกระบบ”
แรงงานนอกระบบที่เข้ามาอย่างไม่ถูกกฎหมาย มิได้หมายความว่าจะเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติเท่านั้น ตรงกันข้าม มีผ่านเข้าช่องทางปกติเพียงแต่เสีย “ส่วย”เท่านั้น
นี่คือช่องว่าง นี่คือรูโหว่ขนาดมหึมาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย
ต้องยอมรับว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาล
จะโทษการเคลื่อนไหวของ นายอานนท์ นำภา หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือการเคลื่อนไหวของ นายทักษิณ ชินวัตร และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ได้
ทุกคำถามจึงถามตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา