คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
ยากยิ่งที่พรรคภูมิใจไทย ยากยิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ จะถอนตัวจาก “รัฐบาล”
ไม่เพียงเพราะว่าตำแหน่งทางการเมืองที่พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ได้มาจากการแบ่งสันปันส่วนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น
งดงาม ใหญ่โต สอดรับกับความต้องการ
นั่นก็คือ พรรคภูมิใจไทยได้กระทรวงคมนาคม กระทรวงสาธารณสุข พรรคประชาธิปัตย์ได้กระทรวงพาณิชย์ ได้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ถือได้ว่าเป็นกระทรวงเกรดเอ ถือได้ว่าเป็นกระทรวงใหญ่
ถามว่าแล้วเหตุใดทั้งพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์จึงยังหงุดหงิด ไม่พอใจ
ความหงุดหงิดไม่พอใจหากวิเคราะห์กันอย่างจริงจังก็ต้องยอมรับว่าเป็นเพราะบทบาทที่ได้มาในเบื้องต้นได้ถูก “ริบ” เอาไปในสถานการณ์ปัจจุบัน
นั่นก็พร้อมกับการเข้ามาของ “โควิด”
อำนาจที่กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เคยได้มาดำรงอยู่อย่างชนิดไม่เหมือนเดิม
เพราะไปอยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ท่าทีและการแสดงออกทั้งพรรคภูมิใจไทย ทั้งพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นการต่อรอง
ต่อรองเพื่อมิให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 85/2564 ต่อรองเพื่อ มิให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่เหนือกระทรวง สาธารณสุข
เท่ากับเหนือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เหนือ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
จึงจำเป็นต้องสะกิด นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ออกมา ผลักรุน นายศุภชัย ใจสมุทร ออกมาเพื่อให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เห็นความสำคัญ
เพียงตัดพ้อต่อว่า แต่ไม่ถึงกับถอนตัวออกไป
ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับพรรคร่วมรัฐบาลจึงเหมือนแมวกับหนู
นั่นก็คือ หนูพยายามวิ่งวนอยู่โดยรอบเพื่อแสดงให้เห็นความสำคัญ แมวก็จำเป็นต้องให้ความสนใจให้บทบาท ให้วิ่งได้อย่างสบายอกสบายใจ
แต่บางเวลาก็ควรจะตะปบสั่งสอนเสียบ้าง
