ปรากฏความย้อนแย้งเป็นอย่างสูงในการเสนอ การโหวตเชิง “ยุทธศาสตร์”

สังคมอาจสัมผัสได้จากข้อเสนอด้วยความเป็นห่วงจาก นายเสรี วงษ์มณฑา ซึ่งมีบทบาทเป็นอย่างสูงในการเคลื่อนไหวผ่านสื่อ

ด้านหนึ่ง เสนอให้จับตา เบอร์ 3 เบอร์ 4 เบอร์ 6 เบอร์ 11

นั่นย่อมหมายถึงจับตา นายสกลธี ภัททิยกุล จับตา นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จับตา พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง จับตา น.ส.รสนา โตสิตระกูล

แต่ก็เน้นไปยัง พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง เป็นพิเศษ

ความต่างจาก นายเสรี วงษ์มณฑา ตรงข้ามกับบทสรุปของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

นั่นเพราะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เรียกร้องตั้งแต่แรกแล้วว่าบทบาทของ นายสกลธี ภัททิยกุล ต่างหากที่น่าสนใจเป็นอย่างสูงในเวทีนี้

เนื่องจากเป็น “แกนนำ” สำคัญของ “กปปส.”

มีบทบาทร่วมกับ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ตั้งแต่ยังอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ และร่วมเป็นร่วมตายในการ “ชัตดาวน์” กรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2557

จึงถือว่า นายสกลธี ภัททิยกุล เหมาะที่จะเป็น “ผู้ว่าฯ กทม.”

ข้อเสนอ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ โลดโผนแล้ว ของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยิ่งโลดโผน

ในความเห็นของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง บทบาทและคุณสมบัติของ น.ส.รสนา โตสิตระกูล เบอร์ 11 ต่างหากที่มีความโดดเด่นสูงสุด

เพราะมีความเหมือนกับ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง

ไม่เพียงเพราะมาในแบบ “อิสระ” เช่นเดียวกับการมาพร้อมฝาเข่งของ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง หากแต่ยังเกาะติดต้าน “คอร์รัปชั่น” ด้วยผลงานอันเป็นที่ประจักษ์

จึงถือว่า น.ส.รสนา โตสิตระกูล เหมาะกับตำแหน่ง “ผู้ว่าฯ กทม.”

คําถามอยู่ที่ว่าทั้งหมดนี้คะแนนโพลล้วนต่ำกว่าของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ทั้งสิ้น

บทสรุป “ร่วม” ก็คือ หากต่างคนต่างหาเสียง หากต่างคนต่างเรียกร้องกองเชียร์ของตน ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะเอาชนะ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้

เผลออาจต้องพ่ายแก่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ด้วยซ้ำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน