การหายไปจากวงจรข่าวของ“พรรครวมไทยสร้างชาติ”สะท้อนนัยยะใดทางการเมือง

มองอย่างผิวเผินสภาพการณ์นี้อาจสัมพันธ์กับบทบาทที่ถูก“ลบ”ไปของ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ จากทำเนียบรัฐบาลโดยสิ้นเชิง

เมื่อไม่ได้อยู่เคียงใกล้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แล้ว

ผลการดีลอะไรต่อมิอะไรก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะที่สำแดงผ่านการเคลื่อนไหวในการจัดตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติก็ต้องหมดสิ้นไปโดยปริยาย

บทสรุปเช่นนี้ยืนยันนัยยะอะไรในทางการเมือง

ถามว่าเป้าหมายในการเตรียมพรรครวมไทยสร้างชาติมีมูลฐานใดรองรับ

คำตอบที่ตรงเป้าอย่างที่สุดก็คือ เป็นการตระเตรียม“พรรคสำรอง”เพื่อการต่อยอดอำนาจให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยตรง

เมื่อไม่อาจวางใจพรรคพลังประชารัฐได้เต็มร้อย

ต้องยอมรับว่า นี่คือความคิดที่เกิดขึ้นและดำรงอยู่โดยตลอดในหมู่กุนซือทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดยเฉพาะนับแต่สถานการณ์เดือนกันยายน 2564

เป้าหมายทางการเมืองของกลุ่มหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คืออะไร

โดยพื้นฐานคือ ต้องการสร้างหลักประกันในการต่อยอดและสืบทอดอำนาจทางการเมืองให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

โดยเป้าหมายหลังวางอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ

แต่ภายหลังจากเกิดสถานการณ์เดือนกันยายน 2564 จากกรณีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ความไว้วางใจต่อพรรคพลังประชารัฐก็ลดลง

มีความคิดในการเข้ายึดพรรค มีความคิดในการตั้งพรรคสำรอง

ไม่ว่าความคิดในการยึด ไม่ว่าความคิดตั้งพรรคสำรองสะท้อนอะไร

สะท้อนให้เห็นความไม่มั่นใจ สะท้อนให้เห็นความเห็นต่างลึกๆ ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

นี่คือรูปธรรมแห่งจุดร้าวภายใน “กลุ่ม 3 ป.”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน