ถามว่า นายสมัคร สุนทรเวช มากด้วยความ “เขี้ยว” ทางการเมืองหรือไม่

หากมองจากเส้นทางอันผาดโผนจาก “พรรคประชาธิปัตย์” ไปยัง “พรรคประชากรไทย” แล้วลงเอยที่ “พรรคพลังประชาชน”

ก็ต้องยกหัว “แม่โป้ง” ให้ด้วยความเต็มใจ

แต่หากถามว่าการตัดสินใจรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชนของ นายสมัคร สุนทรเวช เป็นการตัดสินใจอย่างเปี่ยมด้วยความ “เขี้ยว” หรือไม่

ก็ยังเป็น “คำถาม”

มองในด้านที่ได้เป็น “นายกรัฐมนตรี” ถือว่าได้ปูน “บำเหน็จ” อย่างงดงาม

แต่ถามว่าบำเหน็จอันได้มาผ่านตำแหน่ง “นายกรัฐมนตรี” ตามความใฝ่ฝันได้ทำให้ นายสมัคร สุนทรเวช เต็มตื้นด้วยความพึงพอใจแท้จริงหรือไม่

ยังน่าสงสัย ยังเป็น “คำถาม”








Advertisement

เพราะบำเหน็จนี้เองได้กลายเป็น “ทุกขลาภ” และแม้เจ้าตัวจะยังต้องการได้ “ไปต่อ” ในตำแหน่งนี้ แต่กลับถูกปัดปฏิเสธอย่างเลือดเย็น

ตำแหน่งนี้กลับเป็นของ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

การไม่ได้ “ไปต่อ” ของ นายสมัคร สุนทรเวช นี้เองกลับเป็นเงาสะท้อน “ด้านกลับ”

เด่นชัดว่าคนที่เคยหนุน นายสมัคร สุนทรเวช เมื่อถึงเวลาหนึ่งกลับไม่ได้หนุนและผลักรุน นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เข้ามาแทนที่

ตรงนี้เองที่ยืนยันความล้มเหลวด้าน “การข่าว” ของ นายสมัคร สุนทรเวช

ตรงนี้เองที่ต่อมาได้กลายเป็น “ปม” ในทางการเมือง ส่งผลสะเทือนในทางจิตใจอย่างลึกซึ้งในห้วงเวลาแห่ง “การล่วง” ไปในอีกภพชาติหนึ่ง

เป็น “บทเรียน” อันล้ำค่าจาก “พลังประชาชน”

ปัญหาของพรรคพลังประชาชนก็อีหรอบเดียวกับปัญหาของพรรคเพื่อไทย

โดยเฉพาะเมื่อฟัง “ความนัย” ว่าด้วยการเสนอชื่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เข้ามาเป็น “ทางเลือก” ต่อตำแหน่ง “ประธานสภา”

ในที่สุดแล้วทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับปัญหา “การนำ”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน