กรณี “กำนันนก” ดำเนินไปในลักษณะ “บานปลาย” และความพยายาม “ขยายผล”
บานปลายจากพฤติการณ์ของ “มือปืนหน่อง” ไปยังบทบาทของ “กำนันนก” และทำท่าว่าอาจมิได้เป็นเรื่อง “วิวาท” ธรรมดา หากมีเงื่อนงำ “อิทธิพล”
อิทธิพล “บ้านใหญ่” และขบวนการ “ฮั้วประมูล”
อย่าแปลกใจหากต้องมี “รายงาน” ถึงมือ “นายกรัฐมนตรี” อย่าแปลกใจหากสัมผัสได้ในความใส่ใจจาก “รัฐมนตรี” ว่าการกระทรวง “มหาดไทย”
แนวโน้มของการ “ต่อยอด” มีความเป็นไปได้สูง
คําถามอยู่ที่ว่าแต่ละฝ่ายจะต่อยอดหรือ “พัฒนาการ” เรื่องนี้ไปในทิศทางใด
การที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมอบหมายงานให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยจึงสำคัญ
ไม่เพียงเพราะเป็นรัฐมนตรีจาก “พรรคภูมิใจไทย”
หากแต่เมื่อชื่อของ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ดังขึ้นในสถานะแห่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้คนก็ส่งเสียงฮือฮา ตามมา
นี่เป็นโอกาสของ “พรรคภูมิใจไทย” จริงละหรือ
มีข้อสังเกตมากมายต่อ “กรณีกำนันนก” ว่าสถานะแท้จริงเป็นอย่างไรกันแน่
คำถามก็คือ สถานะของ “กำนันนก” ทะยานไปดำรงอยู่ในจุดอันสามารถเรียกได้ว่าเป็น “บ้านใหญ่” ในพื้นที่อิทธิพลและการเมืองแห่ง “นครปฐม” จริงหรือ
จำเป็นต้องย้อนไปดูสถานการณ์หลัง “รัฐประหาร”
เมื่อคสช.ตระเตรียมในการจัดตั้งพรรคการเมืองและสะสมนักการเมืองถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เดินทางไปพบใครมี “กำนันนก” รวมอยู่ด้วยหรือไม่
แท้จริงแล้ว “กำนันนก” เป็น “ดาวฤกษ์” หรือ “ดาวเคราะห์”
มีความเป็นไปได้ที่ “กรณีกำนันนก” จะดำเนินไปในลักษณะอันเป็น “การตัดตอน”
ไม่เพียงแต่ตัดตอน “มือปืนหน่อง” หากแต่ยังเด่นชัดเป็นลำดับว่าอาจตัดตอนแต่เพียงในกรอบของ “กำนันนก” ไม่ขยายไปมากกว่านั้น
และเมื่อตัดตอนเสร็จ “วงจร” แห่ง “อิทธิพล” ก็ยังคงอยู่
