การเคลื่อนไหวของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ดำรงอยู่เหมือนกับเป็น “ลูกระเบิด”

เด่นชัดยิ่งว่ารากฐานแห่งการเคลื่อนไหวมีจุดเริ่มมาจากกรณี “ล่วงละเมิด” ทางเพศอันเกิดขึ้นและดำรงอยู่ภายในของพรรคก้าวไกล

คล้ายกับมีเป้าอยู่ที่ “คณะนำ” และบรรดา “นักการเมือง”
คล้ายกับจะเป็นเรื่องของสส.กรุงเทพมหานคร เป็นเรื่องของผู้สมัครสส.ชัยภูมิ เป็นเรื่องของสส.ปราจีนบุรี แต่ บทสรุปหนึ่งจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล คือ

“ความรุนแรง” ทางเพศ คือ ปัญหาของทุกคน

มูลฐานแห่งความหงุดหงิดของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล มาจาก “พรรคก้าวไกล”

จึงเน้นไปยัง “คณะนำ” ไม่ว่าจะเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่ว่าจะเป็น นายชัยธวัช ตุลาธน ไม่ว่าจะเป็น น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล

ตั้งข้อสังเกตว่า จัดการปัญหา “ล่าช้า” ไม่ทันกับตัว “ปัญหา”

แม้กระทั่งการมอบให้ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ มาแถลงพร้อมกับ ทนายแจม ศศินันท์ ธรรมฐิตินันท์ ก็มีเป้าหมายเพื่อ “ลอยตัว”

แต่คิดหรือว่า “ผลสะเทือน” จะมีแต่กับ “ก้าวไกล” เท่านั้น

ปมเงื่อนอยู่ตรงที่บรรดา “คณะนำ” ตระหนักในปัญหา “ละเมิดทางเพศ” แค่ไหน

หาก “คณะนำ” เป็นห่วงและยอมรับต่อ “ปัญหา” อยู่แล้ว และมิได้นิ่งเฉยต่อข้อสังเกตและข้อท้วงติงอันมาจาก นายปิยบุตร แสงกนกกุล

ตัดสินใจลงมือ “ปฏิบัติ” และเดินหน้า “แก้ไข”

ผลก็คือ เท่ากับเป็นการจัดแถวภายในของพรรคก้าวไกล และ “ปักธง” ในทางจริยธรรมขึ้นมาในท่ามกลางความ หลากหลายทางเพศที่เป็นจริง

คิดหรือว่าปัญหาลักษณะนี้จะมีเฉพาะแต่พรรคก้าวไกลพรรคเดียว

มีความจำเป็นที่พรรคก้าวไกลจะสรุปรวมปัญหานำไปสู่บทนิยามใหม่ทางจริยธรรม

ทางหนึ่ง ลงมือเผชิญหน้าและจัดการกับปัญหาอย่างไม่ ลูบหน้าปะจมูก ทางหนึ่ง กำหนดเป็น “อนุสาสน์” ใหม่ในทางจริยธรรมอย่างเป็นรูปธรรม

นี่ย่อมเป็น “ระเบิด” ในทาง “ความคิด” ที่ส่ง แรงสะเทือนสูงยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน