ในที่สุด “ปีศาจ” ที่กำลังหลอกหลอนอยู่ในขณะนี้ คือ ปีศาจแห่ง “ดิจิทัล ฟุตพรินต์”

ไม่ว่าจะเป็นคนที่เคยทำรัฐประหารอย่าง พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ก็หนีไม่พ้น ไม่ว่านายกรัฐมนตรีอย่าง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็หนีไม่พ้น

ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งยากจะ “รอด”

นักการเมืองน้อยใหญ่ ไม่ว่าจะอยู่พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะอยู่พรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะอยู่พรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ

ยากที่จะรอดพ้นจากกรงเล็บแห่ง “ดิจิทัล พรินต์”

ความจริง ในยุคแห่ง “อนาล็อก” ก็มีปรากฏการณ์ “พรินต์” ดำรงอยู่อย่างหนาแน่น

ต้องนับตั้งแต่เกิดแท่นพิมพ์ “กูเทนเบิร์ก” ขึ้น นำไปสู่การพิมพ์หนังสือ นำไปสู่การทำสิ่งที่เรียกว่า “หนังสือพิมพ์”

ไม่ว่ายุค “บางกอก รีคอร์เดอร์” ไม่ว่ายุค “ประชาชาติ”

เพียงแต่ดำรงอยู่ใน “สิ่งพิมพ์” เพียงแต่เป็นส่วนหนึ่งของ “หนังสือพิมพ์” สามารถค้นหามาได้จากหอสมุดแห่งชาติ และหอจดหมายเหตุ

แต่ไม่สะดวกสบาย ราบรื่นเหมือน “ดิจิทัล พรินต์”

นั่นคือ การเปลี่ยนผ่านจากยุคแห่ง “อนาล็อก” เข้ามาอยู่ในยุค “ดิจิทัล”

เป็นเทคโนโลยีต่างหากที่สร้างความแตกต่าง เป็นเทคโนโลยีต่างหากที่ทำให้การบันทึกดำรงอยู่อย่างเปิด การค้นหาก็สะดวกและง่ายดายแตกต่างกัน

ไม่เพียง “ภาพ” หากแต่มาพร้อมกับ “เสียง”

บทบาทของ “ดิจิทัล พรินต์” จึงเป็นบทบาทที่อาจเรียกได้ว่าดำรงอยู่อย่างเป็นปีศาจแห่ง “กาลเวลา” ได้รับการปกป้องคุ้มครองอย่างแน่นหนา แข็งแรง

และแสดงบทบาทอย่างคึกคักใน “ยุคสมัยใหม่”

การเมืองยุคใหม่จึงเป็นการเมืองที่เข้มข้น กวดตามไปกับ “ดิจิทัล พรินต์”

ไม่ว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ล้วนตกอยู่ใต้การหลอกหลอน

“ดิจิทัล พรินต์” หลอกหลอนอย่างน่าหวาดพรั่น สยองขวัญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน