ปฏิกิริยาเนื่องจาก “การแปรอักษร” ในกีฬา “จตุรมิตร” กำลังขยายกรอบและขอบเขต

เป็นขอบเขตจากที่ต่อสู้กันในสนามฟุตบอล เป็นการต่อสู้กันในพื้นที่ของ “โซเชี่ยล มีเดีย” จนเกิด #แปรอักษร ขึ้นอย่างอึกทึกครึกโครม

ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกับฟุตบอลประเพณี “จุฬา ธรรมศาสตร์”

เพียงแต่นั่นเป็นระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นในระดับมหาวิทยาลัยเป็นในระดับอุดมศึกษา

แต่ “จตุรมิตร” เป็นเรื่องในระดับ “มัธยม”

ต้องยอมรับว่า “จตุรมิตร” ได้รับอิทธิพลมาจากฟุตบอลประเพณี “จุฬา ธรรมศาสตร์”

ประเพณีในลักษณะนี้ก่อนสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516 ความขัดแย้งปรากฏเพียงในเรื่องของ “รสนิยม” เป็นเพียงการกระแหนะกระแหน

แต่พลังจากสถานการณ์ตุลาคม 2516 มีความลึกซึ้ง

เป็นความลึกซึ้งในประเด็นทาง “ความคิด” สะท้อนการปะทะและต่อสู้กันระหว่างความคิด “เก่า” กับความคิด “ใหม่”

เท่ากับเป็น “ดัชนี” ชี้ถึงแนวโน้มและทิศทาง “การเมือง”

ความเป็นจริงก็คือ มีนักการเมืองหลายคนเริ่มต้นบทบาทจาก “การแปรอักษร”

ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของ นายชวน หลีกภัย ที่ปรากฏผ่าน “งิ้วการเมือง” ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของ นายสมัคร สุนทรเวช ที่ปรากฏผ่าน “แปรอักษร” บนเวที

ยุคหลังการ “แปรอักษร” ในฟุตบอลประเพณีจึงเป็น “ไฮไลต์”

ยิ่งในยุคหลังรัฐประหารไม่ว่าหลังเดือนกุมภาพันธ์ 2534 ไม่ว่าหลังเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าหลังเดือนพฤษภาคม 2557

แหลมคมถึงกับส่ง “ตำรวจ” เข้าไปควบคุม บังคับ

การแพร่กระจายของวัฒนธรรม “แปรอักษร” จากมหาวิทยาลัยไปสู่นักเรียนจึงสำคัญ

สำคัญและสะท้อนความเป็นจริงที่การปะทะในทาง “ความคิด” ความเห็นต่างในเชิง “วัฒนธรรม” เริ่มแพร่กระจายลงไปอย่างลึกซึ้ง

จากมหาวิทยาลัยถึงมัธยมและจะลงไปสู่ประถม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน