แนวคิดในเรื่องเทศกาล “มหาสงกรานต์” ตลอดเดือนเมษายน ท้าทายอย่างยิ่ง
แต่หากมองผ่านความมุ่งมั่นของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แล้ว ก็ต้องยอมรับว่าการท้าทายในลักษณะนี้ “ทรงความหมาย” ในทางการเมือง
ต้องท้าทายอย่างนี้แหละจึงจะเป็น “แพทองธาร”
อาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด “บ้าง” ในถ้อยคำที่ “โพสต์” แต่เมื่อเอาความเป็นจริงมาวางแบอยู่เบื้องหน้าทุกคนก็จะต้องร้องอ๋ออย่างพร้อมเพรียงกัน
ไม่ว่าที่เชียงใหม่ ไม่ว่าที่ขอนแก่น
หากสำรวจเทศกาลสงกรานต์ของแต่ละพื้นที่ก็จะเข้าใจและเห็นด้วยอย่างสุกงอม
อย่าคิดว่าทุกอย่างจะเริ่มในวันที่ 13 เมษายน ตรงกันข้าม “ดอกคูนเสียงแคน” บนถนนข้าวเหนียวแห่งมหานครขอนแก่นเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน
ตามด้วย “ปี๋ใหม่ เมืองหละพูน” ในวันที่ 11 เมษายน
Advertisement
เสร็จสิ้น “มหาสงกรานต์” ของกรุงเทพมหานครที่ถือฤกษ์เอาชัยในวันที่ 13 เมษายน ก็คึกคักไปด้วยเทศกาล “วันไหล” อันร้อนแรง
ตั้งแต่บางแสนไปจนถึงบางเสร่
ยอมรับเถิดว่าการมาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มิได้เป็นการมาแบบ “คนเดียว”
ตรงกันข้าม สะสมความจัดเจนตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยที่มีการเปิด “มหาสงกรานต์” 13 เมษายน 2544 ในแบบงาน “คาร์นิวัล” ระดับโลก
ฝีมือ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ฝีมือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์
ในวันนี้ 2 คนนั้นอาจไม่อยู่กับพรรคเพื่อไทยแล้ว แต่ยอมรับเถิดว่า นายพันศักดิ์ วิญญรัตน์ พร้อมกับ “สมองก้อนโต” ก็ยังนั่งอยู่ข้างๆ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
ทั้งยังมี นางชฎาทิพ จูตระกูล เข้ามาเสริมเพิ่มพลัง
มองถึงความสำคัญของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติก็จำเป็น
ไม่มีอะไรที่จะเร้าความสนใจทั้งในประเทศและต่างประเทศได้มากกว่า “มหาสงกรานต์” ในเดือนเมษายนได้อีกแล้ว เนื่องจากดำรงอยู่ในสถานะแห่ง “เรือธง”
เรือธงที่จะนำ “ซอฟต์พาวเวอร์” แล่นไปในมหาสาคร
