สร้างความเชื่อมั่น
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
สร้างความเชื่อมั่น – การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยระบุไว้ที่ร้อยละ 3.8 ชะลอตัวลงจากร้อยละ 4 เมื่อปี 2560 และปี 2561 ชะลอเล็กน้อย เพราะโครงสร้างของศักยภาพเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง
แม้การส่งออกชะลอตัวลง แต่ภาคการท่องเที่ยวยังมีแนวโน้มขยายตัวดี ขณะที่การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนขยับตัวดีขึ้น
ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกคือสงครามการค้า การถอนตัวของอังกฤษจากสหภาพยุโรป หรือเบร็กซิต และการปรับโครงสร้างของเศรษฐกิจจีน
ส่วนโจทย์สำคัญภายในประเทศคือจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้เร็วเพียงใด หากจัดตั้งได้เร็วจะเป็นผลดี เพราะมีความชัดเจน และสร้างความเชื่อมั่น
เงื่อนไขการขยายตัวทางเศรษฐกิจดังกล่าวนั้นชัดเจนและควรที่ภาคการเมืองต้องร่วมมือให้จัดตั้งรัฐบาลให้ได้โดยเร็วเพื่อประโยชน์ร่วมกันของประเทศ
บุคคลที่ได้รับเลือกมาจากการเลือกตั้ง ควรต้องทำตามเจตนารมณ์ของประชาชนเป็นอย่างแรก คือการเป็นผู้แทนในสภาที่เคารพกฎกติกามารยาทของรัฐสภา
การจัดตั้งรัฐบาลในระบบรัฐสภาที่ใช้กัน ทั่วโลกคือการเปิดทางและโอกาสให้พรรคที่มี จำนวนส.ส.สูงสุดรวบรวมแนวร่วมจากพรรคอื่นๆ ในการตั้งรัฐบาลผสม
เส้นทางดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาในการต่อรองตกลงอยู่บ้างในเรื่องการเลือกนโยบายให้เป็นจุดร่วมเดียวกัน แต่ไม่ควรนานเกินไป เพราะจะมีผลต่อความชัดเจนที่จะส่งผลต่อบรรยากาศความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ
การสร้างความเชื่อมั่นต่อนานาประเทศเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการฟื้นฟูประชาธิปไตย ของไทย ส่วนรายละเอียดทางเศรษฐกิจอื่นๆ รวมถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานหลักๆ ยังคงเดินต่อไปได้เหมือนกับที่รัฐบาลคสช. สานต่อมาจากรัฐบาลชุดก่อนหน้า
ปัจจัยที่จะเป็นตัวพิสูจน์ว่า รัฐบาลพลเรือนได้กลับมาอย่างเต็มรูปแบบจริง ก็ต้องเดินไปตามกติกาสากลของประชาธิปไตยที่ตรงไปตรงมา
อีกทั้งกองทัพเมื่อประกาศแล้วว่าจะกลับเข้ากรมกองเป็นทหารอาชีพ ก็ต้องแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีสัญญาณแทรกแซงใดๆ ทางการเมืองอีก เพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นอย่างแท้จริง
อ่านข่าว