FootNote : ความผิด ของ อนาคตใหม่ กับ คะแนนเสียง 6.3 ล้าน
ปฎิบัติการ IO ที่รุมกระหน่ำเข้าใส่พรรคอนาคตใหม่โดยมี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเหมือนตำบลกระสุนตกในขณะนี้
ได้รับการอธิบายอย่างสั้นกระชับจาก นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความว่า
“เมื่อตัดสินใจเข้าสู่เวทีการเมือง โดยเฉพาะต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการทหารแล้ว มันก็ต้องเจอปัญหาพวกนี้ เรื่องนี้ต้องฟันฝ่ากันต่อไป”
ยิ่งพรรคอนาคตใหม่แจ้งเกิดทางการเมือง ยิ่งทำให้พรรคอนาคตใหม่ต้องตกเป็นเป้าในทางการเมือง
คะแนนรวมอันได้มา 6.3 ล้านเสียงนั่นแหละคือปม
แรกที่พรรคอนาคตใหม่เสนอตัวเข้ามาเมื่อเดือนมีนาคม 2561 มีผู้ ใดเคยคิดหรือไม่ว่าพรรคอนาคตใหม่จะสามารถสร้าง “ปรากฏการณ์”ในทางการเมืองได้ถึงเพียงนี้
เพราะว่าพรรคอนาคตใหม่ประกาศจะต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.
กองเชียร์คสช.ถึงกับเรียกว่า “ไอ้อ่อน” ด้วยซ้ำไป
เพราะพรรคอนาคตใหม่ประกาศจะไม่ทุ่มเงินหาเสียง ไม่มีหัวคะแนน และไม่ได้เริ่มต้นจากการใช้ “พลังดูด”บรรดาอดีตส.ส.เหมือนกับพรรคการเมืองบางพรรค
พรรคอนาคตใหม่จึงไม่มีรากฐานใดๆ หรือสินทรัพย์ใดๆ เลยในทางการเมือง ไม่ว่าในกทม. ไม่ว่าในต่างจังหวัด
การที่ได้คะแนนเสียงมา 6.3 ล้านจึงเป็นเรื่องเหลือเชื่อ
สามารถกำชัยเหนือกว่าพรรคการเมืองอย่างพรรคประชาธิปัตย์ อย่างพรรคภูมิใจไทย อย่างพรรคชาติไทยพัฒนา อย่างพรรคชาติพัฒนา
ตรงนี้ต่างหากที่ทำให้พรรคอนาคตใหม่กลายเป็น “เป้า”
ปฏิบัติการ IO ทุกรูปแบบที่รุมกระหน่ำต่อพรรคอนาคตใหม่ โดยมีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เป็นเป้าจึงเท่ากับเป็นเส้นแบ่งอย่างสำคัญในทางการเมือง
เป็นการเสนอ “ทางเลือก”ให้อีกครั้งต่อสังคม
เพราะสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่กระทำคือการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ปฏิบัติการตามกฎหมายพรรคการเมือง
หากต่อสู้ตามกฎกติกาแล้วถูกบดขยี้ทำลาย ก็น่าสงสัยยิ่งนัก
