ทันทีที่มีการต่อสายจากบางส่วนของพรรคภูมิใจไทยไปยังบางคนในพรรคประชาธิปัตย์

ทันทีที่มีการต่อสายจากบางส่วนของพรรคภูมิใจไทยไปยังบางส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา

การผนึก 51 เสียงเข้ากับ 52 เสียงและ 10 เสียงก็บังเกิดและส่งผลสะเทือนให้กับ 115 เสียงโดยอัตโนมัติ

มองจากความจัดเจนของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ตลอดจน นายวิรัช รัตนเศรษฐ และ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์

นี่เป็นปรากฏการณ์ปรกติยิ่งในทางการเมือง

หากเทียบกับปรากฏการณ์ต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ พรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่และพันธมิตร

ขั้วอันมาจาก 113 สามารถเจรจา ต่อรองได้

ข้อดีของการผนึกตัวรวมพลังระหว่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา อาจสร้างความหงุดหงิดให้กับพรรคพลังประชารัฐ








Advertisement

แต่เป็นเรื่องไม่ยาก หากว่าพรรคพลังประชารัฐจะยอมผ่อนปรนบ้างเล็กน้อย

ที่เคยลั่นวาจาว่าจะ “ไม่งับ” ก็อาจต้อง “งับ”

คำถามอยู่ที่พรรคพลังประชารัฐจะยอมให้หรือไม่หากเป็นกระทรวงในทางเศรษฐกิจอย่างกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์

และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงคมนาคมอันเป็นเป้าหมายของพรรคภูมิใจไทย

นี่เป็นเรื่องที่ “4 ยอดกุมาร”จำเป็นต้องขบคิด พิจารณา

ประเด็นอยู่ที่ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะยอมสละหรือไม่ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ จะยอมสละหรือไม่หากเป็นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หากเป็นกระทรวงคมนาคม อุตสาหกรรม

ทั้งหมดนี้ย่อมเป็นการต่อรองกัน “กลางอากาศ”

ยิ่งหากคสช.และพรรคพลังประชารัฐต้องการเสถียรภาพและความมั่นคงมากเพียงใด รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยิ่งต้องเป็นรัฐบาลผสมมากพรรคเพียงนั้น

มิใช่เพียง 3 หรือ 6 พรรคหากเป็นไปได้ว่าอาจเกือบ 20

เพราะสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อก็มีเกือบ 10 พรรครออยู่แล้ว

นี่จะยิ่งกว่ารัฐบาล ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช หลายเท่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน