FootNote : ทำไมต้องเป็น ผู้กอง”มนัส” ทำไมต้อง 2 เก้าอี้มาครอง
การได้โควตารัฐมนตรี 2 คนในนามของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อาจเป็นเรื่องน่าตกใจ
แต่ถ้าหากไล่เรียงผลงานประสานกับรากที่มาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อย่างต่อเนื่อง
ก็จะประจักษ์
อย่างน้อยการเป็น ส.ส.พะเยา อันเป็นพื้นที่อิทธิพลตั้งแต่ยุค ไทยรักไทย พลังประชาชน ต่อเนื่องมายังเพื่อไทย
ก็ต้องยอมรับว่าตัวตนของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ธรรมดา
ยิ่งกว่านั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ยังอยู่ในฐานะประธานยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคเหนือตอนบนของพรรคพลังประชารัฐอีกตำแหน่งหนึ่ง
การได้โควตากระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังจึงมีความเหมาะสม
กระนั้น บทบาทของ ร.ต.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิได้อยู่ที่ว่ามีส.ส.อยู่ในมือมากน้อยเพียงใดประการเดียว ที่สำคัญเป็นอย่างมากยังเป็นบทบาทในการเคลียร์พื้นที่
เคลียร์พื้นที่สร้างความราบรื่นในทางการเมือง
แปลกใจหรือไม่ว่าทำไม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า จึงเกาะติดอยู่กับการประชุมกรรมการบริหารและส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จนมติเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐปรากฏออกมา
แปลกใจหรือไม่ว่าเมื่อมี “ปฏิกิริยา” จาก 10 พรรคการเมืองในเชิงทวงถามโควตาจาก 2 เป็น 3 ตำแหน่งจึงต้องมี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ร่วมอยู่ในการแถลงบทสรุป
เป็นบทสรุปที่พร้อมให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆ
นั่นก็เพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิใช่ใครที่ไหน
เพียง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ปรากฏตัว ส.ส.จากบางพรรคที่เคยคุยว่าคุมซุ้มนั่นซุ้มนี่ และมากด้วยฤทธิ์เดชจากพิษณุโลกถึงพระราม 7 ก็ต้องเงียบเสียง
เป็นธรรมดาที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะโปรดปราน
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า มิได้เป็น”ละอ่อน”ทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยเป็นกำลังสำคัญกำลังหนึ่งของพรรคเพื่อไทยในทางภาคเหนือตอนบน วิทยายุทธ์ก็ได้ไปจากพรรคเพื่อไทย
เพียงแต่ด้วยเลือดเนื้อความเป็นทหารจึงเข้าคลุกวงในได้มากกว่าหลายคนในกลุ่มสามมิตร หรือที่ถูกพลังดูดดูดไปก่อนหน้านี้
จึงหยิบ 2 โควตารัฐมนตรีเข้ามาเชยชมได้สมความปรารถนา