FootNote:ภาพเหลือเชื่อ MEETING การเมือง ยามที่ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีม.44
เสียงไชโย 3 ครั้งอันดังขึ้น ณ สโมสรราชพฤกษ์ อาจสร้างความดีใจเป็นอย่างสูงให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา
รวมถึงหลายคนในพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าหัวหน้าพรรคเลขาธิการพรรค ซึ่งมีส่วนในการจัดขึ้น
และนี่เป็นก้าวแห่งความมั่นใจว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 4 ธันวาคม จะไม่เป็นเช่นกับในการประชุมเมื่อวันที่ 27 และ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
แต่ก็ต้องยอมรับว่า มาตรการ M-MEETING นี่คือการลดตัวลงครั้งสำคัญ บนเส้นทางของ “3 ป.”นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษ ภาคม 2557 เป็นต้นมา
ลดระดับถึงกับต้องถามหา”หัวหน้าพรรค”ร่วมรัฐบาล
การถามหาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์อย่าง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ มิได้เป็นเรื่องแปลก การถามหาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยอย่าง นายอนุทิน ชาญวีรกูล มิได้เป็นเรื่องแปลก
เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์มี 53 ส.ส. เพราะว่าพรรคภูมิใจไทยมี 51 ส.ส.
แต่การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับถามหา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ และแสดงความลิงโลดถึงกับกระโดดเข้าล็อกคอ พร้อมกับยกย่องด้วยกัปปิยโวหาร
“นี่คือ คนรุ่นใหม่”
นับว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อและสะท้อนให้เห็นลักษณะการอ่อนน้อม ถ่อมตนของชายชาติทหารที่เคยมี M คือ “มาตรา 44” อยู่ในมืออย่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เพราะพรรคไทยศรีวิไลย์มี ส.ส.อยู่ในมือเพียง 1 เท่านั้น
หากย้อนไปมองภาพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในห้วงที่ก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และกุมอำนาจอยู่ในฐานะรัฎฐาธิปัตย์เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
ตอนนั้นอย่าว่าแต่พรรคเล็กๆอย่างพรรคไทยศรีวิไลย์เลยที่จะอยู่ในสายตา
แม้กระทั่งพรรคเก่าแก่ตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายน 2489 อย่างพรรค ประชาธิปัตย์ก็ไม่เคยอยู่ในสายตา อย่าว่าแต่พรรคภูมิใจไทย อย่าว่าแต่พรรคชาติไทยพัฒนาเลย
แต่ ณ วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องไปร่วมงาน MEETING และตะโกนหาแม้กระทั่ง “พี่เต้”
