FootNote : การขับเคลื่อนกิจกรรมวิ่งไล่ลุง สัญญาณการเคลื่อน‘อนาคต’

ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจออก “หมายเรียก” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจและพวก ไปรับทราบ “ข้อกล่าวหา” ต่อการแสดงออกผ่านแฟล็ชม็อบ ณ ลานสกายวอล์ก ปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม

เช้าตรู่ของวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม กิจกรรมเพื่อสุขภาพ”วิ่งไล่ลุง” ก็จะเริ่มขึ้น

แม้ด้านหลักที่ได้รับการประโคมอย่างครึกโครมจะอยู่ที่การ”วิ่งไล่ ลุง” ณ สวนรถไฟ เขตจตุจักร กทม. แต่ก็เป็นที่รับรู้ว่ายังมีการวิ่งในลักษณะเดียวกันนี้ในอีก 30 กว่าจังหวัดทั่วประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงใหม่ในภาคเหนือ ไม่ว่าจะเป็นที่นครปบมในภาคกลาง ไม่ว่าจะเป็นที่พัทลุงในภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นที่อุบลราชธานี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เป็นการวิ่งเพื่อ”สุขภาพ” แต่มีเป้าหมายทาง”การเมือง”

ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของรัฐบาล ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของประชาชนซึ่งจัดการวิ่ง มีความเห็นร่วมกันโดยมิได้นัดหมายและเป็นไป อย่างอัตโนมัติว่า

กิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” เป็นรูปแบบหนึ่งของการเคลื่อนไหวอันมีเป้า หมายในทางการเมือง

ไม่ว่าจะเรียก “วิ่งไล่ลุง” ไม่ว่าจะเรียก”แล่นไล่ลุง”

สัมผัสได้จากความหงุดหงิดอันออกมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือแม้กระทั่ง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์

สัมผัสได้จากความรู้สึก “ร่วม”ต่อคำจำกัดความว่าด้วย “ลุง”และการกำหนดให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ดำรงอยู่ในลักษณะอันเป็น”ตัวแทน”

นั่นก็คือ ต้องการแสดงถึงความไม่ต้องการให้”ลุง”อยู่

น่าสังเกตว่า แม้จะมีการพยายามนำเอาข้อกฎหมายมาเล่นงานการแสดงออกผ่านแฟล็ชม็อบอย่างดุเดือดเสมือนกับเป็นการตีปลาหน้าไซ ก่อนกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”จะเกิดขึ้น

แต่ก็ไม่สามารถสยบหรือกดขวัญหรือสร้างความหวาดพรั่นให้เกิดขึ้นมีขึ้นในทางเป็นจริง

นี่ย่อมเป็น “สัญญาณ” ทางการเมืองอันแหลมคมยิ่ง

เป็นเครื่องเตือนให้เห็นว่า หากปริมาณของ”วิ่งไล่ลุง”ดำเนินไปอย่างคึกคัก กว้างขวาง

นั่นหมายถึงกิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”จะจุดติดและมีตามมาอีกแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน