FootNote:จับตา‘ล่น-ไล่-ลุง’เชียงใหม่ แสงสปอตไลต์ทางการเมือง

ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่า พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กำลังเดินซ้ำรอยกรณี “วิ่งไล่ลุง” เมื่อวันที่ 12 มกราคม

พลันที่กรณี”วิ่งไล่ลุง”ประกาศจะเริ่มอีกครั้งหนึ่งในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์

เพียงแต่เปลี่ยนจากกทม.เป็นเชียงใหม่เท่านั้น

จะแตกต่างไปจากกรณีเมื่อวันที่ 12 มกราคมบ้างก็ตรงที่ครั้งนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหารออกนอกหน้าในการสกัดและขัดขวาง

เพียงแต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สำแดงความหงุดหงิดออกมาเล็กน้อย

แต่หนใหม่นี้ทั้ง 3 ออกโรงเองเลยตั้งแต่ต้น

หากทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ย้อนกลับไปศึกษากรณี”วิ่งไล่ลุง”อย่างมีการประมวล สังเคราะห์ วิเคราะห์และสรุป

ก็จะเห็นได้ว่าคำประกาศ”วิ่งไล่ลุง”เมื่อวันที่ 12 มกราคม ประกาศออกมาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน

และไม่ได้รับความสนใจมากนัก

แต่ทันทีที่ตำรวจจากสน.ปทุมวันไปกดดันสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย แต่ทันทีที่ตำรวจสน.ชนะสงครามไปกดดันโรงแรมรัตนโกสินทร์

แสงแห่งสปอตไลต์เริ่มฉายจับ”วิ่งไล่ลุง”

ยิ่งมีการกดดันไม่ให้กำหนดจุดเริ่มต้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ยิ่งทำให้ภาพของ นายธนวัฒน์ วงศ์ไชย มีความโดดเด่น

กิจกรรม”วิ่งไล่ลุง”ก็ดังระเบิดเถิดเทิง

เหมือนกับการออกโรงตั้งแต่กลางเดือนมกราคมโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พร้อมกับคำสั่งลับๆจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา จะเป็นความรอบคอบรัดกุม

ถึงอย่างไรคำประกาศ”วิ่งไล่ลุง”ที่เชียงใหม่ในวันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ คงไม่เกิดขึ้นจริง

ตรงกันข้าม ท่าทีเช่นนี้เหมือนกับจะเป็นการจุดพลุ

ทุกสายตาจากนานาชาติ ทุกสายตาจากจังหวัดอื่นๆทั่วประเทศล้วนทอดมองไปยังจังหวัดเชียงใหม่โดยอัตโนมัติ

ครานี้เป็น “ล่น-ไล่-ลุง”ด้วยน้ำเสียงเจ๊า-เจ๊า ไพเราะเสนาะใส

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน