“หมายเรียก”จาก”ดีเอสไอ”ที่ส่งตรงไปยัง นายอนันต์ อัศวโภคิน มากด้วยความละเอียดอ่อน
ละเอียดอ่อนต่อ “ดีเอสไอ”
ละเอียดอ่อนต่อภาพโดย “องค์รวม” ของ นายอนันต์ อัศวโภคิน
เพราะเขาคือ เจ้าสัว”แลนด์แอนด์เฮาส์”
เพราะเขาคือผู้ก่อตั้งบริษัทอสังหาริมทรัพย์และพัฒนาเติบใหญ่จนมีการจัดตั้งเป็น “ธนาคาร”
นี่คือผลสะเทือนจาก”สหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น”
นี่คือการต่อ”จิกซอว์”จากข่าวความสัมพันธ์ระหว่าง”วัดพระ ธรรมกาย”กับ “ตลาดหุ้น”
แล้ว”หมายเรียก”ก็ลงที่ นายอนันต์ อัศวโภคิน
วงการรับรู้มานานแล้วว่านอกเหนือจาก นายบุญชัย เบญจรงคกุล แห่งดีแทค
ก็มี นายอนันต์ อัศวโภคิน จากแลนด์ แอนด์ เฮาส์
2 คนนี้มีความสัมพันธ์กับ”วัดพระธรรมกาย”ในฐานะเป็นศิษย์ที่ยอดเยี่ยม
และเชื่อกันว่า มีส่วนสร้างสีสันใหม่ให้บังเกิด
เป็นสีสันที่ไม่เพียงแต่โบสถ์วัดพระธรรมกายจะแปลกแตกต่างไปจากโบสถ์โดยทั่วไป หากมีการต่อยอดจาก”นาลันทา” อย่างเป็น “นวัตกรรม”
ด้วยฝีมือ”สถาปนิก”รุ่นใหม่ ด้วยฝีมือ”วิศวกร”รุ่นใหม่
หากที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ สีสันการทำบุญอันมีแรงดาลใจมาจาก “การตลาด” อันมากด้วยความวิลิศมาหรา
ตรงนี้แหละทำให้นำไปสู่”หมายเรียก”
การพุ่งชน นายอนันต์ อัศวโภคิน อาจเป็นก้าวสำคัญนอกเหนือ จากกรณี พระไชยบูลย์ ธัมมชโย หรือ พระเผด็จ ทัตตะชีโว
โดยมี”ดีเอสไอ”เป็น”กองหน้า”
ขณะเดียวกัน ก็เชื่อได้เลยว่าเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมเงาร่างของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ย่อมจะปรากฏ
แม้ยังอยู่ที่กรณี”ฟอกเงิน”
เป็นความสัมพันธ์ระหว่าง “ที่ดิน”ที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น บริจาคให้วัดพระธรรมกาย
โดยมี นายอนันต์ อัศวโภคิน เข้าไป “เกี่ยว”
