FootNote:ภาวะปั่นป่วน ณ สุวรรณภูมิ การบริหารอันขาดบูรณาการ
ความโกลาหลซึ่งเกิดขึ้น ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 3 เมษายน คือตัวอย่างอันเด่นชัดยิ่งของการขาดการประสานและบูรณาการในการบริหารจัดการ
ที่เด่นชัดคือ ระหว่างกระทรวงคมนาคมกับกระทรวงการต่างประเทศ
นั่นก็คือหน่วย 1 ห้าม นั่นก็คือ หน่วย 1 อนุญาต
ผลก็คือ ความยุ่งยากในการปฏิบัติที่เป็นจริงอันเคยเป็นเหตุให้แม้กระทั่งผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิก็เคยหมดความอด ทนจนต้องยื่นใบลาออก
นั่นก็เนื่องจากกระบวนการไม่ประสาน ไม่บูรณาการอันเป็นกระบวนการบริหารจัดการในแบบไทยๆ
ไม่ว่าจะอยู่ในภาวะฉุกเฉิน หรือไม่ภาวะฉุกเฉินก็ตาม
หากนำเอาสาเหตุที่ผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณจำต้องยื่นใบลา ออกมาศึกษาและทำความเข้าใจกับสภาพโกลาหลล่าสุดในสนาม บินสุวรรณภูมิก็จะเข้าใจ
1 เข้าใจในคำสั่งที่ขัดแย้งกันเองของแต่ละหน่วยราชการซึ่งมี ส่วนเกี่ยวข้องกับสนามบินและผู้โดยสาร
1 เข้าใจในการละเลยและไม่ปฏิบัติตามกฎและกติกา
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านประชาชน ไม่ว่าจะเป็นทางด้านเจ้าหน้าที่ซึ่งจำเป็นต้องรักษากฎ รักษากติกา ก็หละหลวมลูบหน้าปะจมูก
ในที่สุดก็ปรากฏบุคคลในแบบ”นายพล”คนหนึ่งออกมาจัดการกับปัญหา ทั้งๆที่มิได้เป็นเจ้าหน้าที่โดยตรง ทั้งๆที่มิได้มีอำนาจอะไรเลย
นี่คือสังคมแบบไทยๆ นี่คือจุดว่างและช่องโหว่ที่ดำรงอยู่
ในที่สุด ปัญหาของสนามบินสุวรรณภูมิก็เข้าไปอยู่ในความรับผิด ชอบของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าในฐานะหัวหน้ารัฐบาล ไม่ว่าในฐานะหัวหน้าที่กำกับการตามพรบ.ฉุกเฉิน
หากนายกรัฐมนตรีจะทบทวนอย่างเข้มงวด จริงจังและยอมรับก็จะเข้าใจ
เพราะนี่คือปัญหาอย่างเดียวกันกับที่เคยเกิดหลังรัฐประหาร เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และดำรงอยู่แม้กระทั่งหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562
เป็นปัญหาการบริหารจัดการที่ขาดลักษณะ”บูรณาการ”